บ้านเจ้าสาวชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่สร้างเรื่องซองเงินเตรียมจัดงานแต่ง 320,000 บาทหายขณะเป็นลมกลางถนน จนถูก ตร.แจ้งความกลับฐานแจ้งเท็จ ถูกปิดเงียบไม่มีใครอยู่ เพื่อนบ้านบอกน่าจะไปหาหมอเพราะเห็นไม่สบายหลายวันแล้ว พร้อมเผยเห็นใจและสงสารวอนสังคมอย่าซ้ำเติมน้องเชื่อมีความจำเป็นถึงตัดสินใจแบบนั้น
(1 ธ.ค.62) จากกรณีที่เจ้าสาวคนหนึ่ง เกิดเป็นลมหมดสติบริเวณกลางถนนอิสรภาพ ใกล้กับอิสรภาพซอย 43 แถวๆตลาดพรานนก กรุงเทพฯ เมื่อช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ของวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้มีคนรุมเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลหลายคน ก่อนจะมีรถฉุกเฉินนำส่งโรงพยาบาล แต่พอว่าที่เจ้าสาวคนดังกล่าวฟื้นขึ้นมาก็บอกว่าซองสีน้ำตาล ที่มีเงินอยู่จำนวน 320,000 บาท ที่ว่าที่เจ้าบ่าวได้ไปเบิกมา เพื่อเตรียมไว้เป็นสินสอดและค่าจัดงานแต่งงานได้หายไป โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไป จากนั้นว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้นำเรื่องราวไปโพสต์ในเฟสบุ๊ก เพื่อให้คนที่พบเห็นซองเงินดังกล่าวนำมาคืน เพราะจำเป็นต้องใช้จัดงานแต่ง ซึ่งมีกำหนดจัดที่บ้านหนองบัว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเจ้าสาวในวันนี้ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีการจัดงานแต่งตามกำหนดการเป็นปกติแบบเรียบง่ายตามประเพณี มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และเพื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาร่วมงานอย่างคึกคัก
กระทั่งต่อมาเจ้าสาวคนดังกล่าว ได้ยอมรับสารภาพกับตำรวจว่า กุเรื่องขึ้นเนื่องจากหาเงินแต่งงานไม่ทัน จนถูกแจ้งข้อหา “แจ้งความเท็จ”
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของเจ้าสาวที่บ้านหนองบัว ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบว่า บ้านถูกปิดเงียบไม่มีใครอยู่ เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็บอกว่าเห็นออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว คาดว่าน่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะแม่ของเจ้าสาวไม่สบายมาหลายวันแล้ว แต่เมื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ชาวบ้านก็บอกว่าก็รู้แค่จากข่าวเท่านั้น ไม่มีใครกล้าไปสอบถามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากจะไปยุ่งและคิดว่าพ่อแม่ก็อาจจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แต่หากถามความรู้สึกก็เห็นใจและสงสารน้องมากกว่า ก็ไม่อยากจะให้สังคมไปต่อว่าหรือซ้ำเติมน้องเลย คิดว่าน้องน่าจะมีเหตุผลหรือความจำเป็นถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ
เพื่อนบ้าน ยังบอกอีกว่า หากถามถึงนิสัยส่วนตัวของน้อง ตอนที่น้องเรียนอยู่โรงเรียนในหมู่บ้าน ยังไม่ได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ น้องก็เป็นคนนิสัยดี เรียบร้อย มีสัมมาคาราวะ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริง แต่ก็คิดว่าตัวน้องน่าจะรู้ดีที่สุด

