นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เผยว่า รัฐบาลใช้เวลากว่า 4 ปี ปฏิรูปการประมงไทย ให้มุ่งไปสู่การทำประมงที่ยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง โดยในเฟสแรกเป็นการบริหารจัดการเรือประมงพาณิชย์ หรือเรือประมงขนาดใหญ่ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำประมงสูง และเฟสที่สอง คือ การบริหารจัดการเรือประมงพื้นบ้าน ซึ่งเป็นชาวประมงที่หาเช้ากินค่ำ ชาวประมงรายเล็ก รายน้อยที่แท้จริง ซึ่งบางส่วนยังไม่ได้รับการจดทะเบียนเรือ ขณะนี้รัฐบาล ได้ประกาศให้เจ้าของเรือประมงพื้นบ้าน ที่มีใบทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือที่มีขนาดไม่ถึงสิบตันกรอส หรือยังไม่ได้จดทะเบียนเรือและไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ ยื่นคำขอให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบ และทำอัตลักษณ์เรือ ภายในเวลาและสถานที่ที่กำหนด และตามหลักเกณฑ์ ส่วนวิธีการและขั้นตอนมีดังต่อไปนี้ 1.การยื่นคำขอให้ตรวจสอบเรือ โดยให้เจ้าของเรือ ผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครองเรือ หรือผู้รับมอบอำนาจ ดำเนินการยื่นคำขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเรือ และทำเครื่องหมายที่แสดงอัตลักษณ์เรือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 62 ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา ในพื้นที่จังหวัดชายทะเลทั้ง 22 จังหวัด  โดยให้ยื่นคำขอในพื้นที่ที่เรือนั้นจอดอยู่ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบเรือ 1.1 ให้เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ หรือผู้รับมอบอำนาจ ที่ยังไม่ได้ยื่นลงทะเบียนขอตรวจสอบเรือ ดำเนินการยื่นคำขอตามแบบคำร้อง ก.5 เพื่อขอให้ตรวจสอบ และทำอัตลักษณ์เรือประมงที่มีขนาดไม่ถึงสิบตันกรอส 1.2 ให้เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ หรือผู้รับมอบอำนาจ ที่ได้เคยยื่นลงทะเบียน ขอตรวจสอบเรือไว้แล้วกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา ที่ปรากฏในนัดหมายตรวจสอบเรือ ก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้มาประสานกับสำนักงานงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานั้น ๆ เพื่อกำหนดวันนัดหมายตรวจสอบเรืออีกครั้ง โดยให้ถือว่าการยื่นลงทะเบียนขอตรวจสอบเรือดังกล่าว เป็นการแจ้งตามประกาศนี้ 1.3 เอกสารหลักฐานในการขอให้ตรวจสอบเรือ โดยเรือที่มีทะเบียนเรือ ให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชน และยื่นคำร้อง ก.5 กรณีที่เจ้าของเรือไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมอกสารประกอบอื่นๆ พร้อมทั้งให้นำใบอนุญาตใช้เรือ และใบทะเบียนเรือไทยฉบับจริงมาแสดง ส่วน เรือที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเรือ ให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนและยื่นคำร้อง ก.5 กรณีที่เจ้าของเรือไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมเอกสารประกอบอื่น ๆ 2.กำหนดระยะเวลาการตรวจสอบและทำอัตลักษณ์เรือ กำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบเรือประมง ที่มีขนาดไม่ถึงสิบตันกรอส ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 3.การดำเนินการภายหลังการตรวจสอบ 3.1 กรณีเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย โดย เรือประมงมีขนาดไม่ถึงสิบตันกรอส นายทะเบียนเรือจะดำเนินการแก้ไขรายการในทะเบียนเรือ ให้ตรงกับผลการตรวจสอบเรือ เพื่อประกอบการขอจดทะเบียนเรือประมง , เรือประมงมีขนาดตั้งแต่สิบตันกรอสขึ้นไป นายทะเบียนเรือจะดำเนินการแก้ไขรายการในทะเบียนเรือ ให้ตรงกับผลการตรวจสอบเรือ และให้ถือว่าเป็นเรือประมงพื้นบ้านจนกว่า กรมประมงจะประกาศให้มีการขอรับใบประมงพาณิชย์ และให้เจ้าของเรือขอรับใบอนุญาต ทำการประมงพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยประมง 3.2 กรณีเรือประมงที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเรือไทย ให้เจ้าของเรือประมงยื่นขอหนังสือรับรองให้จดทะเบียนเรือ จากกรมประมง และนำมาแสดงต่อนายทะเบียนเรือ และเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ การจดทะเบียนเรือตามกฎหมายเรือไทยแล้ว นายทะเบียนเรือจะจดทะเบียนเรือให้ กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ให้นายทะเบียนเรือแจ้งให้เจ้าของเรือทราบว่า ไม่สามารถจดทะเบียนเรือไทยได้ และให้แจ้งสิทธิ์ให้เจ้าของเรือทำการแจ้งของดใช้เรือ หรือเปลี่ยนประเภทเรือเป็นเรืออื่น โดยให้นำหลักเกณฑ์ตามมาตรา 54/10 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ.2481 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ.2561 ส่วนกรณีที่ได้รับการจดทะเบียนเรือที่มีขนาดตั้งแต่สิบตันกรอสขึ้นไป ให้หมายเหตุไว้ในใบอนุญาตใช้เรือดังนี้ "ให้ถือว่าเป็นเรือประมงพื้นบ้านจนกว่า กรมประมงจะประกาศให้มีการขอรับใบประมงพาณิชย์" และให้เจ้าของเรือขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยประมง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมเจ้าท่า: 0-22331311-8  หรือ https://www.md.go.th/md/