สตาร์มาร์ค เปิดกลยุทธ์แตกไลน์ธุรกิจบริการออกแบบและตกแต่งเสร็จแบบครบวงจร เปิดระบบ “Mass Interior System” เจาะกลุ่มโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์แบบเต็มตัว ยกระดับลุยตลาดอินทีเรียปี 63 หวังดันยอดโต 10%   นางสาวณัฐปภัสร์ ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าปัจจุบันภาพรวมของตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมจะยังมีแนวโน้มที่ติดลบอยู่ก็ตาม แต่ทว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์ยังคงมี Demand จากกลุ่ม B+ ถึง A+ และความต้องการของนักลงทุนจากต่างประเทศอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการเกิดใหม่ของกลุ่มที่พักและโรงแรม เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสตาร์มาร์คจึงได้เห็นถึงช่องทางการแตกไลน์สู่ธุรกิจตกแต่งห้องพักแบบครบวงจร ประกอบกับความเชี่ยวชาญของบริษัทในด้านเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในที่พักอาศัยแบบ Fully-Furnished และ Fully-Fitted จนเกิดเป็นไอเดียของกลยุทธ์บริการออกแบบและตกแต่งเสร็จแบบครบวงจร หรือ Mass Interior System service เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์โดยเฉพาะMass Interior System โดย สตาร์มาร์ค คือ บริการออกแบบและตกแต่งเสร็จแบบครบวงจร โดยจุดเด่นของ Mass Interior System คือความลงตัวของเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้รับการออกแบบเฉพาะให้เข้ากับพื้นที่ได้พอดี และสามารถนำมาประกอบเข้าชุดเสร็จ โดยไม่มีการก่อสร้างที่หน้างานเหมือนงานบิวด์อินทั่วไป สำหรับ Mass Interior System บริษัทฯ เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2554 จากการที่บริษัทเข้าตกแต่งโครงการของกลุ่มโรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พ้อยท์ที่แรก ในโครงการ Grande Centre Point Sukhumvit ที่ Terminal 21 นับเป็นปีแรกที่บริษัทเห็นความเป็นไปได้และทดลองการให้บริการนี้ โดยเป็นการตกแต่งห้องพักทั้งหมด 498 ห้องในระยะเวลา 8 เดือน ซึ่งสตาร์มาร์ค ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากเจ้าของโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ และช่วยให้โครงการนี้เปิดบริการเร็วกว่ากำหนดถึง 3 เดือน ทำให้เราเกิดความมั่นใจและเชื่อว่าจะสามารถให้บริการเพื่อตอบรับความต้องการของโครงการอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน และจากนั้นสตาร์มาร์คก็ได้ให้บริการกับโครงการอีกหลายแห่ง อาทิ Grande Centre Point Sukhumvit 55, Grande Centre Point Pattaya รวมถึงโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอีก 2-3 โครงการด้วย ด้านผลประกอบการของสตาร์มาร์ค ปัจจุบันยังเติบโตต่อเนื่อง จาก Backlog กว่า 1,600 ล้านบาท ในช่วง 10 เดือนแรก ซึ่งฐานลูกค้าหลักของสตาร์มาร์ค ยังคงแบ่งออกเป็นลูกค้าโครงการที่ 60% และลูกค้าทั่วไปที่ 40% โดยกลุ่มลูกค้าทั่วไปยังคงยอดการเติบโตในระดับที่ดี จากจำหน่ายผ่านโชว์รูม โมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์กว่า 80 สาขาทั่วประเทศและในกลุ่ม AEC นอกจากนี้ สินค้าของสตาร์มาร์ค ทั้ง เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในที่พักอาศัย และ “ชุดครัวแพนทรี” ที่เป็นสินค้าที่สตาร์มาร์คมีความเป็นเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก รวมถึงสินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่เปิดตัวไปในงานบ้านและสวน ต่างได้รับการตอบรับค่อนข้างดี และมีลูกค้าสนใจพร้อมวางมัดจำกว่า 100 ราย ซึ่งทำให้บริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโต 10% ได้ตามเป้าในปี2562 นี้ ส่วนในโค้งสุดท้ายในปี2562 นี้ สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง เตรียมส่งของขวัญให้ทุกครอบครัวเฉลิมฉลองไปกับเทศกาลแห่งความสุข กับแคมเปญ “Mega Bonus Sale” ส่งท้ายปลายปี พบสินค้าชุดครัว ลดสูงสุดกว่า 50% พบกับชุดครัวสตาร์มาร์ค ได้ที่โชว์รูม CDC เรียบทางด่วนรามอินทรา, เซ็นทรัลบางนา ชั้น 5 และโฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศ ด้านแผนการในปี 2563 ที่จะถึงนี้ สตาร์มาร์คจะมีการปรับ Flagship store ที่ CDC และ โชว์รูมบางนา เพื่อรองรับลูกค้าสตาร์มาร์คอินทีเรีย ให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็ว และตอบโจทย์ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและฝีมือ อีกทั้ง บริษัทยังได้เตรียมการปรับกระบวนการภายใน ทั้งลดกระบวนการให้กระชับขึ้น และดีไซน์สินค้าโดยคำนึงถึงความต้องการของตลาด พร้อมสร้าง Connect กับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ครบวงจรในสินค้าเพื่อการอยู่อาศัย และแน่นอนว่าไลน์ธุรกิจ Mass Interior System service จะเป็นอีกหนึ่งเรือธงที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับบริษัทได้ ทั้งในแง่ของบริการที่ครบวงจร ประหยัดเวลา-ค่าใช้จ่าย และตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ซึ่งสตาร์มาร์คคาดว่าจะสามารถดันยอดขายให้เติบโตได้ 10% ในปี2563