เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 พ.ย. 62 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษิณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ ได้ร่วมกัน แถลงข่าวถึงการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวม 8 ราย พร้อมยาบ้า 4 แสนเม็ด อาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมยึดทรัพย์ตาม พรบ.รถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ฟอจูนเนอร์ ยี่ห้อโต้โยต้า 1 คัน ทะเบียน กท 1009 นครศรีธรรมราช รถยนต์เก่ง ยี่ห้อฮ้อนด้าซีวิค ทะเบียน ญษ 4804 กทม.รถยนต์เก่งยี่ห้อโตโยต้า วีออส ทะเบียน กอ 1004 ภูเก็ต รถ และ จยย.ฮ้อนด้าเวฟ 1 คัน ทะเบียน ขฉธ 5 ตรัง เงินสด 3 หมื่น ทองคำ หนัก 4 บาท รวมของกลางมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
เครือข่ายค้ายาดังกล่าว ทางเข้าหน้าที่ตำรวจ .ป.ป.ส.ภาค 8 ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 จับกุม ผู้ต้องหา 6 รายแรกประกอบด้วย นายเฉลิมวุฒิ จันทรา อายุ 36 ปี พร้อมยาบ้า 38 เม็ด ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุน 3 นัด กระสุนปืน .45 จากนั้นได้ขยายผลต่อไป และได้ จับกุม น.ส.รุ่งนภา กาหลง อายุ 23 ปี พร้อมยาบ้า 150 เม็ด โดย 2 รายแรกจับได้ในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ก่อนจะขยายต่อไปจับนายณัฐพงษ์ ติกขนา อายุ 30 ปี และ น.ส.สุกัญญา นามวงค์ อายุ 27 ปี พร้อมยาบ้า 31 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 18.61 กรัม ปืน .32 พร้อมกระสุน 7 นัดต่อ จากนั้นขยายผลจับกุมนายไกรเทพ สงเคราะห์ อายุ 21 ปี นายธนา อินทรณรงค์ อายุ 21 ปี นายวัชรพงศ์ ศักดิ์จิรพาพงษ์ อายุ 27 ปี นายวัฒนา กามินทร์ อายุ 24 ปี ยาบ้า 575 เม็ด ไอซ์ 5.99 กรัม ปืน .38 จำนวน 2 กระบอก 4 คนหลังถูกจับได้ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ ติดต่อขอรับยาเพิ่มจากเครือข่าย จนสามารถจับกุมนายสุพจน์ รักษาจันทร์ อายุ 46 ปี พร้อม น.ส.อำภรรัตน์ สงวนศักดิ์ อายุ 41 ปี ได้ที่หน้าโรงเรียนบ้านสวน หมู่ 6 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด มาส่งให้ตามนัด คุมตัวไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 142 หมู่ 3 ต.วังหิน ของผู้ต้องหารายหลังสุดพบยาบ้าอีก 199 มัด ซ่อนอยู่ในสวนยางพารา จนท.แกะออกดูพบยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด จึงคุมตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เป็นของกลาง รวมของกลาง กว่า 20 ล้านบาท
ทาง พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับได้ในครั้งนี้ เป็นเครือข่ายรายใหญ่ 3 จังหวัด ซึ่งมีบุคคลเป้าหมายอีก 1 คนที่เป็นตัวการใหญ่ เป็นชาว จ.กระบี่ รับยาเสพติดมาจากโรงงานผลิตของประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง ส่งตรงมาขายในพื้นที่ จ.กระบี่ ต่อมาเริ่มขยายพื้นที่ไปจำหน่ายใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง ตำรวจจึงวางแผนติดตามกลุ่มเครือข่ายจนสามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ในพื้นที่เป้าหมาย ต่อมาก็ขยายผลจนสามารถจับกุมมาได้เกือบทั้งหมดในแก๊งเดียวกัน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังคงขยายผล ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่คอยทำหน้าที่รับยาบ้ามาโดยตรงจากโรงงานผลิต และนอกจากนี้ทราบว่ายังมีตัวการสำคัญอยู่ในพื้นที่ จ.ตรังด้วย ขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว ซึ่งจะประสานติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ ติดต่อขอรับยาเพิ่มจากเครือข่าย จนสามารถจับกุมนายสุพจน์ รักษาจันทร์ อายุ 46 ปี พร้อม น.ส.อำภรรัตน์ สงวนศักดิ์ อายุ 41 ปี ได้ที่หน้าโรงเรียนบ้านสวน หมู่ 6 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด มาส่งให้ตามนัด คุมตัวไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 142 หมู่ 3 ต.วังหิน ของผู้ต้องหารายหลังสุดพบยาบ้าอีก 199 มัด ซ่อนอยู่ในสวนยางพารา จนท.แกะออกดูพบยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด จึงคุมตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เป็นของกลาง รวมของกลาง กว่า 20 ล้านบาท
ทาง พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับได้ในครั้งนี้ เป็นเครือข่ายรายใหญ่ 3 จังหวัด ซึ่งมีบุคคลเป้าหมายอีก 1 คนที่เป็นตัวการใหญ่ เป็นชาว จ.กระบี่ รับยาเสพติดมาจากโรงงานผลิตของประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง ส่งตรงมาขายในพื้นที่ จ.กระบี่ ต่อมาเริ่มขยายพื้นที่ไปจำหน่ายใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง ตำรวจจึงวางแผนติดตามกลุ่มเครือข่ายจนสามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ในพื้นที่เป้าหมาย ต่อมาก็ขยายผลจนสามารถจับกุมมาได้เกือบทั้งหมดในแก๊งเดียวกัน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังคงขยายผล ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่คอยทำหน้าที่รับยาบ้ามาโดยตรงจากโรงงานผลิต และนอกจากนี้ทราบว่ายังมีตัวการสำคัญอยู่ในพื้นที่ จ.ตรังด้วย ขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว ซึ่งจะประสานติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป