EPCO โตไม่หยุด COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น Kurihara 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 17.25 เมกะวัตต์ อัตราค่าขายไฟ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงเป็นที่เรียบร้อย ดันยอด COD โรงไฟฟ้าในประเทศ-ต่างประเทศพุ่งแตะ 551 เมกะวัตต์ หนุนรายได้-กำไร ปี 2562-2563 สร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ตามแผน
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO)เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าโซลาร์ประเทศญี่ปุ่นโครงการคูริฮาร่า 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 เมกะวัตต์ได้ดำเนินการเชื่อมต่อไฟฟ้าเข้าระบบเพื่อทดสอบระบบผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.62 โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ในระบบ Fit ซึ่งราคาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง คงที่ตลอดอายุสัญญา
“ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ EPCO ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ขนาดกำลังการผลิตรวม 551 เมกะวัตต์ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย เวียดนาม และญี่ปุ่น,โครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ติดตั้งบนหลังคา
ทั้งนี้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปีรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า และแนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ปัจจุบันเริ่มขยายไลน์เข้าสู่การผลิตกล่องลูกฟูก จะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันยังคงมองหาลู่ทางการลงทุนและโอกาสในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลม และแก๊สธรรมชาติเพิ่มเติม ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนามซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตถึง 246 เมกะวัตต์ คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2562
“ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ EPCO ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ขนาดกำลังการผลิตรวม 551 เมกะวัตต์ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย เวียดนาม และญี่ปุ่น,โครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ติดตั้งบนหลังคา
ทั้งนี้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปีรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า และแนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ปัจจุบันเริ่มขยายไลน์เข้าสู่การผลิตกล่องลูกฟูก จะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันยังคงมองหาลู่ทางการลงทุนและโอกาสในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลม และแก๊สธรรมชาติเพิ่มเติม ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนามซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตถึง 246 เมกะวัตต์ คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2562