จากกรณีหญิงสาวปริศนารายหนึ่งเข้าไปรัวคอมเมนต์ในไอจี ประกาศตามหาสามีหนุ่มบาร์เทนเดอร์ที่ชื่อ คาสัน ถามมาเรื่อยๆไม่หยุดเพราะเห็นขึ้นรถไปด้วยกัน ไม่กลับบ้าน โดยข้อความระบุว่า... "รู้จักคาสันไหม" "เห็นคาสันไหมค่ะรบกวนบอกกลับบ้านด้วย" "คุณดาค่ะ เห็นบาร์เทนเดอร์ชื่อคาสันไหมค่ะ พอดีมีคนเห็นขึ้นรถไปกับคุณ ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เลยค่ะ ลูกกับเมียเป็นห่วง ถ้าเจอยังไงรบกวนบอกกลับบ้านด้วยนะคะ" ล่าสุดดาได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไปด้วยกันจริงแต่ไปกันหลายคน “ตกใจค่ะ ยอมรับว่าตกใจมากว่าเราตื่นมาก็เจอแมสเสจแบบว่า โอ้..เกิดอะไรขึ้น อะไรแบบนี้เลย คือจะบอกว่าดาเงียบมา 3 วัน แล้วอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นสงครามแบทเทิลกัน ดาไม่อยากให้มันกลายเป็นสงครามน้ำลาย คือแมสเสจที่ดาได้ก็คือแบบที่เราเห็นกันเป็นคุณแม่คนหนึ่งที่มาตามหาสามี แล้วจะบอกว่าประโยคที่ทำให้เรารู้สึกว่า เรากลายเป็นเรื่องชู้สาวกันเนี่ย คือการขึ้นรถไปกับคุณดา คือจริงๆ การขึ้นรถไปกับคุณดา คือคุณแม่เล็กอยู่ในรถกับดา” ยอมรับ "คาร์สัน" บาร์เทนเดอร์ที่เมียตามหาผัว ขึ้นรถไปด้วยจริง “เขาก็เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน ในผับแห่งหนึ่งแหละค่ะ เป็นโซนดีเจ บาร์เทนเดอร์ แล้วก็เชฟ อะไรพวกนั้น แต่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อ คือจะบอกว่าวันนั้นคือมันตลกตรงที่ เมื่อเช้าดาเพิ่งดูคลิปที่ดาไปเชคๆเครื่องดื่ม คือแบบทุกคนไม่เห็น แพรว คณิตกุล กับ ลุลา เลยเหรอคะ คือวันนั้นเราถ่ายรายการเสร็จแล้วแพรวกับลุลาเขาเป็นเกสต์ให้ดา เราก็ไปกินต่อกันนานๆ เจอกันที ไปถึงที่บาร์แห่งนี้จะบอกว่าวันนั้นสาวเกิร์ลแก๊งออกมานั่งปาร์ตี้กันเนี่ย ประมาณ 7-8 คน” “คือจะบอกว่าคนที่อยู่ในรถมีม่ามี๊กับดาแล้วก็คาร์สัน จริงๆ แต่จะบอกว่าตอนเช้าเนี่ยทุกคนแยกย้ายกันไปดูแลตัวเองกันอยู่แล้ว คือบ้านดาเป็นศูนย์รวม เสร็จงาน เลิกงานผับ ตี 2-3 เราก็จะเป็นคนชวนทุกคนไปต่อไหม แล้วเดอะแก๊งก็ไป" "แต่เราตื่นมาเที่ยงครึ่งปุ๊บ เฮ้ย..นี่คืออะไรอ่ะ แล้วเรานี่แหละเป็นคนดรอปบอกซ์เข้าไปในอินสตาแกรมของคุณคาร์สันว่า ยูไอได้แมสเสจพวกนี้ มันเกิดอะไรขึ้น ยูช่วยติดต่อเขากลับด้วยนะ “ ไม่ขอพูดว่า คู่กรณีเป็นสามีภรรยากันหรือไม่ “อันนี้ดาไม่พูดดีกว่า ดาไม่รู้ความสัมพันธ์จริงๆของเขาสองคนเป็นอะไรกัน แต่ก็ดูอย่างที่ทุกคนเห็นเหมือนว่าเขาหากันไม่เจอเป็นวันสองวันไปเลย ตอนนี้ดาก็หวังว่าเขาน่าจะคุยกันแล้ว” “เขาพูดว่าเสียใจ ขอโทษนะที่ทำให้เราต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ตัวดาเองก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร แต่คุณติดต่อเขาแล้วใช่ไหม แล้วคุณช่วยเคลียร์ด้วยนะว่าการกระทำแบบนี้มันเสียหายกันทั้งหมด แล้วคุณกับแฟนของคุณก็ควรจะคุยกันนะ คุณเปิดเครื่องคุยกันนะว่าไปไหนทำอะไร อันนี้เราก็ไม่รู้แล้วว่าเขาไปคุยกันต่อยังไง” คาร์สันออกจากบ้านดาไปตอนเช้า ซึ่งก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่มาปาร์ตี้ “เรื่องขึ้นรถไปด้วยกัน ถ้าทุกคนเห็นว่ามีแม่เล็กขึ้นไปกับดาด้วย ทุกคนจะไม่พูดในเชิงนี้ ดาจำได้ว่าคืนนั้นดาค่อนข้างเสียงดัง แล้วดาเดินออกมาจากปากซอยแล้วพูดว่า ไปต่อบ้านดากันเปล่า” แล้วเขาออกไปจากบ้านเราตอนไหน “น่าจะเป็นตอนเช้าๆ แหละ เพราะบางคนถ้ากลับไหวก็กลับ กลับไม่ไหวก็อยู่ที่บ้านกันไป” ไม่เคยไปไหนด้วยกัน พึ่งรู้จักกันครั้งแรก “ไม่ค่ะ ครั้งแรก คือรู้จักกันครั้งแรก” เรื่องราวกลายเพราะฝ่ายชายไปที่บ้าน “มันเป็นฝั่งเดียวไงคะ ทุกคนไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่หัวค่ำมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราไปกับใคร อย่าให้มองว่าเป็นเรื่องที่แอบทำกันสองคนหรือลับๆใดๆ ดาว่ามันไม่โอเคแล้วตอนนี้ ดาอยากให้ทุกคนช่วยหยุดความขยี้ ดาขอโทษนะคะ ดาเพิ่งลบคอมเมนต์ไป เพราะมันกลายเป็นสงครามระหว่างคนที่เราไม่รู้จักเลย ดาขออนุญาตลบนะคะ แล้วก็อย่าไปกระแซะเย้าแหย่ใดๆ แค่นี้ดาก็ว่ามันสร้างความลำบากใจในการใช้ชีวิตของคนสองคนแล้วค่ะ” ไม่ขอเคลียร์กับผู้หญิงคู่กรณี “อุ๊ย อย่าเลย ไม่เป็นไร ดาว่าคนที่เขาควรเคลียร์ที่สุดคือผู้ชายมากกว่า ที่เขาพุ่งมาที่เราดาคิดว่ามันน่าจะเป็นจุดที่คาร์สันขึ้นรถมากับดา ประโยคแค่นั้น เห็นดาขึ้นรถไปกับคาร์สัน ไม่มีและคุณแม่ไงคะ มันก็สามารถกลายเป็นเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ” ยืนยันว่าความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเกินเลย “ไม่มีเลย เอาจริงๆ จะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นเชฟ ดีเจ หรือใครๆที่ดารู้สึกคุยถูกคอเวลาเราทำงานด้วย ก็จะแบบ พี่ๆ ไปบ้านฉัน” “ไม่เลยค่ะ ไม่มีเชิงชู้สาว และตอนเขย่าบาเทนแดอร์ ที่เชคๆ อ่ะ เสียงที่แลบมาจากวีดีโอคือเสียงของ “แพรว คณิตกุล” มันขำตรงที่ว่า ทำไมๆ ในคืนวันนั้นมันกลายเป็นเรื่องของคนสองคน และเป็นในเชิงชู้สาวไปได้” วันนั้น "แพรว คณิตกุล" ไม่ได้ไปต่อบ้านดา แต่มีคนอื่นๆ ไป “ไม่ได้ไปค่ะ ถ่ายรายการเสร็จเราแยกกันที่ร้าน คนที่ไปคือมามี๊ดา พี่จุ๋ม พี่กอล์ฟ แก๊งนี้ แล้วก็เด็กที่สตูดิโอ ที่ทำงานกันเสร็จตีสองตีสาม เพิ่งจะเริ่มได้แฮงก์เอาท์กันเท่านั้นเอง” ไม่ตอบโต้เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องจริง “เขาก็ตามทุกที่ แต่เราไม่ดีกว่า เราไม่ตอบ ไม่อะไร เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของดา แล้วการที่ดามีเพื่อนคนหนึ่งแล้วถ้าเกิดดาถูกคอ แล้วชวนไปเที่ยวกัน จะไปถามว่ายูมีลูกยังค่ะ มันไม่ใช่ประโยคนั้นเปล่า เราไม่ได้คิดในเชิงชู้สาว มันไม่ใช่เลย เอาเป็นว่าเขาตามทุกที่ แต่ดารู้สึกว่า เราเงียบมา 3 วัน แล้วเหมือนดาจะโดนฝั่งเดียว แล้วดารู้สึกว่าวันนี้มาคุย และอยากจะบอกให้เขายุติสงคราม เฮ้ย... เฮ้ย.. เฮ้ย... เพราะแค่นี้ดาว่าคนที่น่าเป็นห่วง ไม่ใช่ดาแล้ว มันคือแฟนตัวผู้ชายกับผู้หญิงนะคะ” “ข้อความที่ส่งมามันก็เท่าที่เห็น เท่านั้นแหละ มันก็เลยแบบ เท่านั้นแหละ ดาก็เลยลบดีกว่า มันเริ่มแบบว่ามีตัวละครหลายๆ ตัวเข้ามาเกี่ยว” โสดเลยเจอเรื่องอื้อฉาว “ใช่ มันอาจจะเป็นเพราะดาเพิ่งเลิกกับแฟนด้วย และด้วยอะไรหลายๆ อย่าง มันก็เลยกลายเป็นเชิงชู้สาว ถ้าเกิดดายังมีแฟนอยู่ ต่อให้มีผู้ชายหรือผู้ชายขึ้นรถ ก็คงไม่น่าจะมีปัญหา” ส่งข้อความหาคาร์สัน “ดาแค่ส่งข้อความไปหาเขาทางอินสตาแกรมว่าอยากให้เคลียร์นะ คือเรื่องแบบนี้มันส่งผลไม่ดีกับอนาคตของเธอและแฟนของเธอ” “ส่วนผลกระทบกับดาแรกๆ มี แรกๆ ค่อนข้างมีเพราะว่าเราไม่ออกมาพูดอะไรมากกว่า แล้วดาก็เริ่มแบบว่าทำไมมีเราคนเดียว ทำไมล่ะ แล้วแพรวก็บอกให้โพสต์เลยวีดีโอของเรา โพสต์เลยดา ทุกคนก็แบบว่าเอาไปภาพเราอยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วย คือทุกคนเหมือนเชียร์อัพว่าไม่ต้องเสียใจนะ ดาก็แค่แบบว่ามันไม่มีอะไร แล้วถ้ามันไม่มีอะไร ไม่มีใครทำอะไรเราได้จริง” ไม่หวั่นที่จะต้องพูดคุยกับคาร์สันอีก “ดาว่ากล้านะ เราไม่มีปัญหา คือเราต้องย้ายร้านกินเลยเหรอ (หัวเราะ) วันนี้สบายใจ(หัวเราะ) สบายใจมาก มันก็อึดอัดนะ เหมือนมันเป็นภาพจากฝั่งเดียว อย่างที่บอกว่ามันมีสองด้าน เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเกิดว่าดูด้านเดียว แล้วมันก็อาจจะมีต่างๆ นานาได้”