ปัจจุบันช็อปปิงออนไลน์กลายเป็นทางเลือกหลักของนักช็อปเป็นจำนวนมาก จากความสะดวกสบายและสินค้าราคาถูกที่แต่ละเจ้าแข่งขันกันเพื่อเอาใจลูกค้าไม่ว่าจะเป็นทางร้าน E-marketplace ทางเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมที่เข้าถึงความต้องการของขาช็อปโดยไม่ทันตั้งตัว จนหลายคนอดกดคอนเฟิร์มออเดอร์เพลินไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็มีพัสดุกองอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว จนเรียกได้ว่าเราเดินมาถึงจุดสูงสุดของความสะดวกสบายในการช็อปปิงแล้วก็ว่าได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้อดถามไม่ได้ว่าแล้วขั้นต่อไปของการช็อปปิงออนไลน์จะเป็นอย่างไรได้อีก ท่ามกลางทางเลือกสารพัดจนเลือกไม่ถูกก็มาซึ่งการตั้งคำถามว่าแล้วเราจะช็อปปิงออนไลน์อย่างไรให้สมาร์ทที่สุดล่ะ จึงพูดได้ว่าเราอาจมาถึงยุคของ Smart Shopping เลยก็คงไม่ผิด LINE SHOPPING เลยขอเผย Top 5 เทคนิคเด็ดที่จะทำให้คุณเป็นนักช็อปออนไลน์สุดฉลาด สมาร์ทนำเทรนด์ก่อนใคร 1.เปรียบเทียบราคาพร้อมเลือกร้านที่มั่นใจที่สุด แน่นอนว่าใครๆก็ต้องเปรียบเทียบราคาของร้านนั้นกับร้านนี้เพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุดอยู่แล้ว แต่การเปรียบเทียบแต่ละครั้งก็ยุ่งยากเหลือเกิน เพราะต้องเข้าแอปนั้นออกแอปนี้ หันมาอีกทีสินค้าหมด จะดีกว่าไหมถ้าจะช็อปปิงผ่านแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชั่นรวมเอามาร์เก็ตเพลสชั้นนำมาเปรียบเทียบราคาทันทีเมื่อค้นหาสินค้า แล้วให้เลือกเลยว่าอยากจะได้ราคาไหน จากร้านไหน เพราะบางทีเจอถูกกว่าแต่ก็ไม่แน่ใจในร้านค้า ฟังก์ชั่นเปรียบเทียบกันเห็นๆไปเลยนี่แหละ ประหยัดเวลาและช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก 2.ไม่ใช่แค่เราที่รู้ใจตัวเอง แพลตฟอร์มก็ต้องรู้ใจเราด้วย ถ้าคุณเป็นขาช็อปตัวยง คงไม่อยากพลาดดีลเด็ดจากสินค้าที่คุณสนใจและชื่นชอบเป็นพิเศษ แถมยังนำเสนอสินค้าที่ถูกจัดหมวดหมู่ตามความชื่นชอบของตัวเราเอง ไม่ต้องตาลายไปกับขบวนสินค้าอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเราจนอดรำคาญไม่ได้ ฟังก์ชัน Personalised Notification Message เป็นสิ่งที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้รู้ใจนักช็อป แจ้งอัพเดทพร้อมทั้งส่งข้อมูลข่าวสาร แจ้งโปรโมชันตามหมวดหมู่สินค้าที่ผู้ใช้งานตั้งค่าไว้ผ่าน Official Account ของ LINE อย่างที่ LINE SHOPPING มี 3.ทิ้งช่วงตัดสินใจ แต่ก็ยังเกาะติดไม่ห่าง หลายคนอาจเคยลังเลก่อนจะกดคลิกสินค้าใส่ตระกร้าและจ่ายเงิน เพราะยังไม่แน่ใจว่าราคาที่เห็นขณะนั้นจะถูกที่สุดแล้วหรือยัง จะซื้อเลยดีไหมนะ คิดไปคิดมาดันลืมไปเลยว่าจะซื้อ โมเมนท์ลำบากใจนี้จะหมดไป การกดเซฟสินค้าที่เล็งไว้ลงในแท็บ Wishlist นี่แหละช่วยได้ แล้วยิ่งดีไปอีกถ้าได้รับการเตือนจากระบบแพลตฟอร์มเมื่อราคาสินค้ามีการเปลี่ยนแปลง ให้คุณไม่พลาดและตัดสินใจได้เลยถึงเวลานั้น 4.อย่ามองข้ามคอลเลกชันสินค้าที่ทางแพลตฟอร์มนำเสนอ ไม่ใช่แค่ไม่พลาดการลดราคาของสินค้าที่เราเล็งไว้แต่เพียงเท่านั้น แต่อย่ามองข้ามคอลเลกชันสินค้าที่แพลตฟอร์มรวมไว้ให้คุณเป็นพิเศษ เพราะบ่อยครั้งที่ดีลพิเศษๆจะถูกนำมารวมเป็นคอลเลกชันในราคาที่คาดไม่ถึง เช่น รวมสินค้า11 บาทในเดือน 11 ที่รวมเอาหูฟัง Apple Airpods มาแจก LINE POINTS BACK รัวๆ จนเสมือนว่าคุณได้สินค้ามาในราคาเพียงแค่ 11฿* หรือ สมาร์ททีวีที่ได้ LINE POINTS BACK คืนถึง 10,000 บาท ฯลฯ พูดเลยว่าดีลเด็ดนี่มักมาในรูปแบบคอลเลคชันนี่แหละ 5.“พอยท์” คือความคุ้มค่า ความคุ้มค่าคือความสมาร์ท แค่ได้ของมาในราคาถูกคงไม่พอแล้วในยุคนี้ แต่การได้ “พอยท์” หรือคะแนนสะสมจากการช็อปปิงเป็นอีกเรื่องใหญ่ที่ขาช็อปไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะ “พอยท์” นี่แหละที่จะช่วยให้เราช็อปได้สมาร์ทยิ่งขึ้น จากการใช้พอยท์ดังกล่าวไปทำอะไรๆต่อได้อีกเยอะ เช่นเดียวกันกับ LINE POINTS BACK (ไลน์ พอยท์ส แบ็ค) ซึ่งเป็นคะแนนสะสมของนักช็อปที่ซื้อสินค้าผ่าน LINE SHOPPING โดยมีมูลค่า 1 พอยท์ เท่ากับ 1 บาท ซึ่งสามารถใช้แทนเงินสดเพื่อใช้ซื้อสินค้าอื่นๆผ่านแพลตฟอร์มแห่งนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถนำพอยท์ไปใช้ต่อใน LINE STORE ซึ่งรวมเอาสารพัดไอเท็มและบริการเด็ดจาก LINE ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ธีมจาก LINE STICKER, LINE GIFTSHOP, เสียงรอสาย LINE MELODY และเป็นส่วนเงินสดลดในอีก 60,000 ร้านค้าผ่าน Rabbit LINE Pay เช่น BTS, Mc Donald’s, Mister Donut, Dairy Queen, The Pizza Company, Watsons, AIS, dtac, SF, Major Cineplex และอีกมากมาย เรียกได้ว่าการช็อปปิงกับการได้พอยท์นั้นเป็นเรื่องเดียวกันไปเลย (ซึ่งจะได้รับพอยท์คืนภายใน 45 วัน) รู้อย่างนี้แล้ว ชักคันไม้คันมืออยากช็อปแบบสมาร์ทและล่า LINE POINTS BACK ไปพร้อมๆกัน เปิดแอป LINE เข้า Wallet แล้วกด LINE SHOPPING ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าหลากหลายประเภททั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น บิวตี้ เครื่องใช้ไฟฟ้า แกดเจ็ต และคอลเลกชันพิเศษจากหลากหลายแบรนด์ชื่อดังจากมาร์เก็ตเพลสชื่อดัง ทั้ง LAZADA, Shopee, Beauticool, OfficeMate, allaboutyou, JD Central, Advice และอีกมากมาย