รมว.คมนาคม และผู้บริหาร รฟท. สั่งการให้นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมจัดเจ้าหน้าที่การรถไฟร่วมกับกำลังตำรวจ และเสริมแผงกั้นจุดตัดเสี่ยงอันตรายที่รถไฟบรรทุกหินวิ่งผ่าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ หลังมีผู้ขับขี่บางรายไม่สนเสียงวูดและสัญญาณเตือนขับผ่าน ช่วงที่รถไฟวิ่ง วันนี้ (22 พ.ย.62) หลังจากได้มีการโพสต์คลิปรถไฟบรรทุกหินที่จะนำไปโรยตามรางรถไฟ ทั้งในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ ขับผ่านจุดตัดซึ่งไม่มีที่กั้น และยังมีผู้ขับขี่บางคนไม่สนเสียงวูดหรือสัญญาณเตือนของเจ้าหน้าที่ยังคงขับผ่านไปทั้งที่รถไฟใกล้จะวิ่งมาถึงแล้วซึ่งเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ได้สั่งการให้นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สำรวจ และจัดเจ้าหน้าของการรถไฟ เข้าไปเสริมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการอำนวยสะดวกรถที่สัญจรและเพิ่มความปลอดภัยบริเวณจุดตัดที่รถไฟบรรทุกหินวิ่งผ่าน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีจุดตัดทั้งหมด 8 จุด ในจำนวนนี้เป็นจุดที่มีความเสี่ยง 3 จุด ซึ่งทั้ง 3 จุดก็จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ของการรถไฟไปบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและปิดกั้นรถช่วงที่รถไฟบรรทุกหินวิ่งผ่าน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในระยะยาวก็จะมีการปรับปรุงแผงกั้นแบบแมนนวล มาคอยปิดกั้นเพิ่มเติมด้วย นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า ส่วนที่การตั้งคำถามว่าทำไมไม่ทำที่กั้นอัตโนมัตินั้น ก็ขอชี้แจงว่าเนื่องจากเป็นรางรถไฟที่ใช้สำหรับบรรทุกหินไปโรยตามรางรถไฟ ไม่ใช่รางรถไฟโดยสาร ซึ่งในรอบ 1 ปีจะวิ่งอยู่ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น และในระยะ 2 เดือนก็จะวิ่งวันเว้นวัน เพียง วันละ 1 รอบ คือ ช่วงเวลา 08.00 น. และจะใช้ความเร็วเพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งต่างจากรถไฟโดยสารที่รถรถไฟวิ่งทุกวันวันละหลายขบวน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประชาชนร้องขอให้ทำที่กั้นอัตโนมัติเลย แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้รถสัญจรผ่านไปมา ก็จะต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยมากขึ้น และจุดไหนที่เสี่ยงก็จะให้เจ้าหน้าที่ลงไปโบกให้สัญญาณ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรถสัญจรผ่านแล้วจะวิ่งไปต่อได้อย่างปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย