โรงพยาบาลบ้านผือ จับมือ ตำรวจ สภ.บ้านผือ ซ้อมแผนเผชิญเหตุป่วนในห้องฉุกเฉิน จำลองสถานการณ์ไล่ทำร้ายกันต่อเนื่อง เพื่อซักซ้อมความพร้อมและการควบคุมสถานการณ์หากเกิดขึ้นจริง วันที่ 20 พ.ย. 2562 ที่โรงพยาบาลบ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายแพทย์ทวีรัตน์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านผือ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านผือ ,พ.ต.ท.อติเมธ พลมุข รอง ผกก.ป.สภ.บ้านผือ ,พ.ต.ท.สมพาน ขันเงิน สวป.สภ.บ้านผือ ,ร.ต.อ.ชาญยุทธ เศวตวงศ์ รอง สว.สส สภ.บ้านผือ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านผือ เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอบ้านผือ เจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลบ้านผือ ร่วมซ้อมแผนเผชิญเหตุในกรณีมีการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายภายในโรงพยาบาล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทราบและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องทันเหตุการณ์ และการซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ 0 โดยการซ้อมแผนได้เริ่มแผนควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการให้การดูแลผู้บาดเจ็บ กรณีเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง และมีคู่กรณีไล่ตามมาทำร้ายต่อในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน โดยได้จำลองเหตุการณ์ในการรับตัวผู้บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย แล้วมีคู่กรณีตามมาทำร้ายต่อที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าควบคุมสถานการณ์ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุจากห้องฉุกเฉิน และรับสถานการณ์หากมีความพยายามในการเข้าทำร้ายพร้อมกันหลายคนโดยมีอาวุธติดตัว พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านผือ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจ สภ.บ้านผือ ร่วมกับโรงพยาบาลบ้านผือได้จัดการซ้อมแผนการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายภายในโรงพยาบาลขึ้น รวมทั้งวางแนวทางแก้ไข การแจ้งเหตุ และเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาระงับเหตุได้อย่างทันที ที่ผ่านมามีการก่อเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาลต่างๆในพื้นที่ต่างๆมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหลังก่อเหตุตำรวจได้นำตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย การกระทำในลักษณะดังกล่าวไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะอาจกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างการรักษาผู้ป่วยรายอื่น หรือทำให้ทรัพย์สิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหาย และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย หรือประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในโรงพยาบาล ด้าน นายแพทย์ทวีรัตน์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านผือ กล่าวว่า การซ้อมแผนในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความพร้อมกับทุกฝ่ายในการป้องกันเหตุ เพื่อให้การปฏิบัติการทั้งหมดมีการประสานงานกันระหว่างโรงพยาบาลและตำรวจอย่างใกล้ชิด และรับสถานการณ์หากมีความพยายามในการเข้าทำร้ายพร้อมกันหลายคนโดยมีอาวุธติดตัว ต้องขอความร่วมมือประชาชนผู้มารับบริการ ญาติผู้ป่วย ร่วมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ขอให้โรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดความรุนแรงสำหรับทุกคน และขอความร่วมมือสื่อมวลชน สื่อสังคมออนไลน์ให้เสนอผลลัพธ์การลงโทษแทนการเสนอพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างทั้งนี้ การทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายภายในโรงพยาบาล เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนผู้รับบริการเสียขวัญ เจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย โรงพยาบาลจึงต้องจัดระบบสร้างความเข้าใจระหว่างญาติและผู้ป่วย พร้อมวางมาตรการสร้างระบบความปลอดภัย เพื่อป้องกันบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาล โดยเฉพาะห้องฉุกเฉิน ที่มีการกั้นห้องไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ง่าย ประตูห้องฉุกเฉินจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่เป็นคนเปิด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทำงานร่วมกับตำรวจ ตรวจเป็นระยะ ติดกล้องวงจรปิดและลดเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับความคาดหวังของผู้ป่วยและญาติ.