วันที่ 18 พ.ย.62 ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปข.ตร.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผู้ช่วย ผบ.ตร./ผอ.ศปข.ตร., พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.
1, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จเรตำรวจ (สบ 8), พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร
รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผบก.ภ.3, พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์,
พ.ต.อ.อนันต์ น านาสมบัติ, พ.ต.ท.ปองภพ เศรษฐาจินดา, พ.ต.ท.อลงกรณ์ คลังเงิน รอง ผกก.3 บก.ปคบ. พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณศรี สว.กก.3 บก.ปคบ. กับพวก นำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 330/2562 ลง 18 พ.ย.62 ตรวจค้นโกดังไม่ปรากฎเลขที่ หมู่ที่ 4 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ซึ่งเป็นเป่าหมายจากการขยายผลจากที่มีประกาศโฆษณาท่อไอเสียผ่านเฟสบุ๊คท่อสูตรหนูลำลูกกา(นพรุจ) มีนายอาทิตย์ แดงโนรี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 18 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี แสดงตนเป็นเจ้าของ และนำตรวจค้นศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปข.ตร.)และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคม.)บุกตรวจค้น/จับกุม สถานที่ลักลอบผลิตและจำหน่ายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ไม่ได้มาตรฐาน
พื้นที่ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีและ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางฯ4 มาตรการ คือ 1. มาตรการป้องกันเชิงรุก (ก่อนเกิดเหตุ) 2. มาตรการปราบปราม (ขณะเกิดเหตุ) 3. มาตรการ
สอบสวนขยายผล 4. มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำผิด เพื่อให้การแข่งรถในทางหมดไป และมีคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 560/2560 ลง 3 ตุลาคม 2562แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) นั้น
จากการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางฯ พบว่ากลุ่มเด็กแว้นที่มีพฤติกรรม
ขับขี่รถก่อความเดือดร้อนรำคาญ และอาจนำไปสู่การแข่งรถในทาง มักจะใช้รถจักรยานยนต์มีท่อไอเสียดัดแปลงให้มีเสียงดังและไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) โดยจะหาซื้อท่อไอเสียที่ไม่มี มอก. มาจากแหล่งต่างๆ
รวมทั้งการสั่งซื้อผ่านทางสื่อโซเชียลออนไลน์ต่างๆ เช่น เฟสบุ๊ค, แอพพลิเคชั่นไลน์, เว็บไซต์ ซึ่งมีการโฆษณาจำหน่ายท่อไอเสีย โดยส่วนใหญ่เป็นท่อไอเสียที่ไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพต่ำ ไม่ได้รับการรับรองหรือผ่านการทดสอบคุณภาพจากมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคโดยตรงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการล่อซื้อตัวอย่างท่อไอเสียจากเว็บไซต์และโซเชียลต่างๆ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เก็บและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับรถจักรยานยนต์ (ท่อไอเสีย) ซึ่งไม่มีเครื่องหมาย มอก. ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้ตรวจยึดไว้รวมจำนวน 37 หน่วย (อัน) และอายัดเครื่องมือผลิตท่อไอเสียรถจักรยานยนต์รวมทั้งสิ้น 11 หน่วย (ชิ้น) เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
จุดที่ 2 พ.ต.ต.อภิเดช อธิคมสัญญา กับพวกกับพวก ได้นำหมายค้นของศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค.189/2562 ลง 18 พ.ย.62 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 74 ซ.เพชรเกษม 93/1 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ตามข้อมูลจาก เฟสบุ๊คท่อสูตรแดงสาย 4 Racing-สมุทรสาคร พบนางแสงระวี ยศกรวงศ์อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 88/111 ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดูและนำตรวจค้นพบว่า เป็นสถานที่ผลิต เก็บและจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่รถจักรยานยนต์พบพนักงานกำลังทำ
การผลิตอุปกรณ์ในการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตท่อไอเสีย และพบท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ และพบท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้ว รอส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป โดยไม่แสดงเครื่องหมาย มอก. ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ จำนวน 178 ท่อ และชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น หม้อพัก 15 ชิ้น, คอท่อไอเสีย 75 ชิ้น และชิ้นส่วนอื่นๆ อีก รวมทั้งสิ้น 9 รายการ 388 ชิ้น และตรวจอายัดอุปกรณ์ อะไหล่ รถจักรยานยนต์ อีกรวม 24 รายการ จำนวน 10,936 ชิ้น เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 ดังนี้
1. ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 20 โทษตามมาตรา 48 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. โฆษณาเพื่อจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำหรือนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 36 โทษตามมาตรา 55 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนหากพบเห็น หรือมี
เบาะแสเกี่ยวกับการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทางหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือการสนับสนุนให้มีการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1599 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือ ส่งคลิปวิดีโอแจ้งข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องให้ตำรวจทราบ ในช่องทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์โซเซียลมีเดีย ศปก.ตร. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเบาะแสการผลิต จำหน่าย ท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(ไม่มี มอก.) ได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามให้การกระทำความผิดแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน


