รถ 10 ล้อ ทับเละรถจยย.เสียชีวิต 1 สาหัส 1 สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก มันสมองปนเลือดสดๆ ไหลนองพื้น แขน ขาหักนอนเสียชีวิตกลางถนน ส่วนเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยเป็นเด็กม.2 อาการสาหัส เดชะบุญร่างกระเด็นออกนอกถนนจึงรอดตายหวุดหวิด ตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุและสอบปากคำคนขับ เบื้องต้นคาดรถ จยย.วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเกิดแหกโค้งเสียหลักเข้าช่องทางเดินของรถบรรทุก 10 ล้อ จึงประสานงากันอย่างจัง อุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทขับขี่รถเร็วจนทำให้เด็กหนุ่มต้องบาดเจ็บล้มตายครั้งนี้ เกิดขึ้นเวลา 15.45 น.ของวันที่ 15 พ.ย.62 ร.ต.ท.ปรินทร์ ส่วนบุญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากนายธีระ กาญจนภานุ หน.ศูนย์สื่อสารมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อชนกับรถ จยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ1 รายและเสียชีวิต1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายบ้านรางกระต่าย-ตะคร้ำเอน หมู่ 8 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกาฯ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ของมูลนิธิฯ กำลังยืนอำนวยความสะดวกในเรื่องการจราจรอยู่ตรงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยก และเป็นทางโค้ง ประกอบกับถนนสายดังกล่าวมียวดยานพาหนะวิ่งผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นได้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 10 ล้อยี่ห้อฮีโน่สีเขียวขาว หมายเลขทะเบียน 82-7726 ราชบุรี จอดอยู่กลางถนนในลักษณะกันชนด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชนแบบลักษณะชนประสางานกัน ห่างไปประมาณ 10 เมตรพบร่างผู้เสียชีวิตนอนตะแคงคว่ำหน้าในสภาพกะโหลกศีรษะแตก มันสมองปนเลือดสดๆ ไหลนองพื้น อวัยวะตามร่างกายฉีกขาด แขนและขาหักผิดรูป ห่างจากจุดที่พบศพบริเวณพงหญ้าริมถนนพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กณ-82 กาญจนบุรี ล้มคว่ำอยู่ในสภาพพังยับทั้งค้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ เพื่อให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ ก่อนจะมอบศพให้กู้ชีพของมูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาอีกครั้ง จากการสอบสวนปากคำของพ่อผู้ตายทราบชื่อผู้ตายชื่อนายจีรภัทร กลั่นแย้ม อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 8 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ส่วนเพื่อนของผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.มาทราบชื่อคือ ดช.บุญญาฤทธิ์ แพงป้อง อายุ 13 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 8 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพขุนรัตนาวุธฯ ได้นำร่างของ ดช.บุญญาฤทธิ์ ซึ่งอาการสาหัสมากเป็นตายเท่ากันนำส่ง รพ.มะการักษ์ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอาการอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นจากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุและจากปากคำให้การของนายวิรัช ไผ่ล้อม อายุ 56 ปี คนจับรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งให้การว่า ขณะที่ตนขับรถจะมาซื้อทรายในบ่อทรายที่บ้านรางกระต่าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ อยู่ๆ ผู้ตายก็ขี่รถมาด้วยความเร็วสูงขี่แข่งกันมากับเพื่อนที่ขี่รถ จยย.มาอีกคัน พอมาถึงรถของผู้ตายก็แหกโค้งกินเลนถนนเข้ามาในช่องทางของตนที่ขับรถมา จึงเกิดการชนประสานงากันอย่างจังจนทำให้ผู้ตายเายชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนข้อเท็จจริงจากปากคำของผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป