ทั้ง “2 บิ๊ก” ผู้มากบารมีในรัฐบาล อย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “พี่ใหญ่” คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต่างออกชัดเจนว่า “ไม่หวั่นไหว” หรือวิตกกังวลต่อ การที่ “7 พรรคฝ่ายค้าน” เตรียมงัดเกมใหม่ขึ้นมาห้ำหั่น ด้วยญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเชื่อมั่นว่าถึงอย่างไร “คสช.ภาค2” ในร่างเงาของ รัฐบาล “ประยุทธ์2/1” ก็จะยังสามารถอยู่รอดปลอดภัย รัฐบาลจะไม่มีวันถูกล้มลงด้วยแรงโค่นจาก “7 พรรคฝ่ายค้าน” ลงได้อย่างแน่นอน ! หากเป็นไปตามปฏิทินทางการเมือง ที่พรรคฝ่ายค้านได้ประชุมและมีมติร่วมกัน เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 ที่ผ่านมา นั่นคือ เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ไม่เกินวันที่ 6 ธ.ค. และวางกรอบที่จะอภิปรายในวันที่ 18-20 ธ.ค. 62 เรียกว่าขอซักฟอกรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการส่งท้ายปีเก่ากันเลย ในระหว่างนี้ 7 พรรคฝ่ายค้านจะเก็บข้อมูล ทั้งเก่าและใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาล โดยตั้งเป้า ย้อนไปยังยุครัฐบาล “ประยุทธ์ 1” เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โดยยึดแนวทางที่ว่า “ความผิดในอดีตส่งผลต่อปัจจุบันและเป็นความกังวลไปสู่อนาคต” หมายความว่า ในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมร่างเพื่อยื่นไปยังประธานสภาฯ จะต้องเปิดทางแบบกว้างๆ ขยาย “เป้าโจมตี” ไปยังรัฐมนตรี ในแต่ละกระทรวง ทั้งคนปัจจุบัน โยงไปถึง “อดีตรัฐมนตรี” ในสมัยรัฐบาลคสช. เรียกว่า การยื่นอภิปรายฯรอบนี้ ฝ่ายค้าน ต้องการ “ฝากแผล” เอาไว้ให้รัฐบาลให้เกิดความบอบช้ำมากที่สุด เพราะรู้ว่าโอกาสที่จะ “คว่ำ” นั้นเป็นไปได้ยาก “ ไม่ต้องห่วง พรรคพลังประชารัฐเราต้องพร้อมอยู่แล้ว และตอนนี้รัฐบาลเพิ่งทำงานมา 3-4 เดือนเอง ยืนยันตอบได้หมด และรัฐมนตรีตั้งใจทำงานทุกคน ไม่ต้องห่วงหรอก” พล.อ.ประวิตร ตอบข้อถามผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามถึงความพร้อมในการรับมือกับศึกอภิปรายฯ อย่างไรก็ดี สำหรับ บิ๊กป้อม ในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล” แล้วย่อมรู้ดีว่า ปัญหาใหญ่ที่กำลังรอถล่มรัฐนาวานั้น ศึกซักฟอกรัฐบาล ของฝ่ายค้านย่อมไม่ใช่ “จุดตาย” แต่ปัญหาที่กำลังรุมเร้า จนต้อง “เร่งสะสาง” กลับเป็น “ศึกใน” จะทำอย่างไรเพื่อ บริหารจัดการความขัดแย้ง ไปจนถึงการประคอง “เรือเหล็ก” ลำนี้ให้ล่องไปได้อย่างราบรื่น มากที่สุดต่างหาก ! โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะแม่ทัพใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย โดดออกมาปกป้อง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม รัฐมนตรีของพรรค ด้วยเหตุที่มีสื่อบางค่ายบางสำนัก เดินหน้าตรวจสอบศักดิ์สยาม ในฐานะเจ้ากระทรวงหูกวาง แถมยังตรวจสอบกันก่อนที่จะถึง “คิว” ศึกอภอปรายไม่ไว้วางใจ จนนำไปสู่ “ข่าวลือ” ลุกลามไปไกล ทั้งเรื่องที่ศักดิ์สยาม อาจจะโดนจับขึ้นเขียงถูกฝ่ายค้านจ้องยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนถึงขั้น “ปรับครม.” กันทีเดียว แน่นอนว่า เรื่องลึกลับไปกว่านั้น ย่อมไม่ใช่ประเด็นของการปะทะกันระหว่าง แกนนำพรรคภูมิใจไทยกับสื่อบางสำนัก แต่คนของพรรคภูมิใจไทยเองยังต้องห่วงหน้าพะวงหลังด้วยว่า ในรัฐบาลด้วยกันเองนั้น มี “มือดี” มือมืด ที่แอบส่งข้อมูลให้คนนอก รวมทั้ง ฝ่ายค้านเพื่อยืมมือให้มาถล่มภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ ? "ผมรู้นะว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ผมจะไม่บอก เพราะเป้าหมายจะรู้ตัว และผมจะไม่ไปหารือกับใครทั้งนั้น ผมอยากให้รัฐบาลไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้ ให้เอาเวลาไปคิดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจดีกว่า เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ" (12 พ.ย.62) อนุทิน บอกกับสื่อ และพร้อมกันนี้ อนุทิน ยังดับข่าวลือ ที่กำลังส่งผลในทางร้ายต่อพรรค “ ยืนยันยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนใครจะคิดอะไร อยากได้อะไร ก็คิดไป แต่ภูมิใจไทย ไม่เคยคิดทั้งนั้น ขอทำงานสร้างความไว้วางใจกับประชาชน แต่ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลง ความเป็นรัฐบาลผสม อย่างไรเสียก็ต้องมาคุย เรามีภารกิจในการนำพาบ้านเมืองไปด้วยกัน” (12 พ.ย.62) อนุทิน ส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน ในภาวะการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็นับว่า “อยู่ยาก” ไม่น้อยแล้ว การที่ต้องเจอกับปัญหาความเป็นเอกภาพ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันนั้นยิ่งไม่ใช่เรื่องง่ายดาย และยังไม่นับรวมการเคลื่อนไหว ของ “พรรคเล็ก” ที่เป็นส่วนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล ในจังหวะที่บิ๊กตู่ กำลังไหลเข้าไปสู่เกมซักฟอกในสภาฯ ล้วนแล้วแต่เป็นจังหวะที่ไม่เอื้ออำนวย เอาเสียเลย !