สำหรับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งเหมาะกับการไปเติมพลังในวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากขับรถไม่นานก็ถึงจุดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวหลายคนวางแผนเดินทางไปซึมซับอากาศดีๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เขาใหญ่น่าจะเหมาะกับการมาพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด และเก็บภาพความประทับใจได้แบบรัวๆ โดย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และได้รับสมญานาม ว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนเป็นที่ยอมรับทั่วไป ว่า เป็นอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมานานหลายสิบปี เพราะเป็นแหล่งผลิตโอโซนสีเขียวขนาดใหญ่ และเป็นต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชีวิตสัตว์ป่าหายาก ทั้งเก้ง กวาง ช้าง เสือ ไปจนถึงกระทิง ให้ได้พึ่งพิงอาศัย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งการได้นั่งรถผ่านเส้นทางที่ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ ได้ยินเสียงนก เสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ส่งเสียงร้องทักทายผู้มาเยือน นับเป็นวิถีการท่องเที่ยวที่แสนจะสุขสำราญใจ ในขณะเดียวกันสามารถแวะท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิว น้ำตกเหวสุวัต ทุ่งหญ้าเขียวขจีร โดยมีไฮไลต์ของที่นี่ อย่าง น้ำตกเหวนรก สวยมงามท่ามกลางอันรกครึ้ม และไม่ควรพลาด กับน้ำตกเหวสุวัตที่สวยงามไม่แพ้กัน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมาย เช่น ล่องแก่ง ดูนก กางเต็นท์ค้างแรม หรือจะพักบ้านพักของอุทยานฯ สงบเงียบ สุดประทับใจ อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ สำหรับชาวไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท ขณะที่ ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ สถานที่ท่องเที่ยวเชิง เป็นการผสมผสานระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และการปฏิบัติงานทางด้านการปลูกไวน์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมีไร่องุ่นปลูกอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ มีองุ่นหลายสายพันธุ์คัดสรรจากต่างประเทศ อาทิ Syrah, Cabernet Sauvignon, Chenin Blanc, Viognier, Verdelho ซึ่งคัดเลือกสายพันธุ์ที่เข้ากับสภาพอากาศ และดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมหลักระดับพรีเมียมในการผลิตไวน์ของไร่กรามอนเต้  ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ หลายคนมาที่ ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ เพราะหลงใหลในรสชาติของไวน์ฝีมือนิกกี้-วิสุดา โลหิตนาวี ทายาทเจ้าของไร่องุ่นแห่งนี้ที่มีดีกรีเป็นถึงไวน์เมกเกอร์คนแรกของเมืองไทย ด้วยการดูแลองุ่นทุกต้นอย่างพิถีพิถัน และกระบวนการทำไวน์ฉบับอินเตอร์ ทำให้ไวน์ของไร่นี้มีคาแร็กเตอร์พิเศษเฉพาะตัว จนหลายปีที่ผ่านมาไวน์ของ กราน-มอนเต้ ได้ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย จากการคว้ารางวัลในระดับโลกมาแล้วมากมาย รวมถึงรางวัล Best National Producer – Thailand หรือผู้ผลิตไวน์ดีเด่นแห่งประเทศไทย จากการแข่งขันไวน์นานาชาติ AWC Vienna ที่จัดขึ้นในประเทศออสเตรีย ชนะซ้อนหลายปี รวม 2015, 2016, 2017 และ 2019 ซึ่งที่ ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ มีห้องให้ความรู้เกี่ยวกับไร่ และองุ่นสายพันธุ์ต่างๆ ตั้งแต่เรื่องพันธุ์องุ่นที่ใช้ทำไวน์ ถังไม้โอ๊คที่ใช้หมัก ไปจนกระทั่งเทคนิคการชิมไวน์อย่างถูกวิธี และยังอิ่มใจกับความงดงามของไร่องุ่นและทิวทัศน์ เพียงเลี้ยวรถเข้าไปจะได้พบกับทัศนียภาพที่สวยงามของต้นองุ่น ที่ปลูกเรียงรายเป็นแถวยาวไปจนสุดสายตา สำหรับใครที่สนใจเรื่องไวน์เป็นพิเศษ สามารถซื้อแพ็กเกจชมสวนองุ่น และร่วมเวิร์กช็อปชิมไวน์ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีร้าน Montino Shop ขายผลิตภัณฑ์จากไร่อย่างเช่น ไวน์ น้ำองุ่นชีราซ 100% และสินค้าโฮมเมดแยมองุ่น ฯลฯ รวมทั้งร้านอาหาร VinCotto ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนบรรยากาศเยี่ยม ที่ซ่อนตัวอยู่ในไร่องุ่น และยังมีบริการห้องพักสุดหรูในชื่อ GranMonte Wine Cottage สำหรับผู้ที่สนใจพักผ่อนท่ามกลางไร่องุ่นไวน์ อีกทั้งที่นี่ยังมีเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปี ช่วงต้นปี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จนต้องจองแพ็กเกจข้ามปี ที่สำคัญเรื่องการบริการยังการันตีด้วย รางวัลชนะเลิศการบริการยอดเยี่ยม ประจำปี ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึง ปัจจุบัน จาก Tripadvisor เว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย สำหรับค่าเข้าชมไร่องุ่น และ wine tasting ราคาผู้ใหญ่ท่านละ 450 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 20 หรือท่านที่ไม่ดื่มไวน์ 350 บาท รอบทัวร์ช่วงหน้าหนาวนี้ วันธรรมดา 10.00, 11.30, 13.30, 15.00, 16.00 น. เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 09.00, 10.00, 11.30, 13.30, 15.00, 16.30 น. พิชญ์เขาวงกต ส่วน พิชญ์เขาวงกต เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีจุดขายและกำลังได้รับความนิยมสูง โดยมีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 5 ไร่ ภาพถ่ายมุมสูงของ ซึ่งเป็นเส้นทางสลับซับซ้อนเหมือนเกมเขาวงกต ด้านบนตัดเรียบเสมอกัน เป็นเขาวงกต ที่มีชีวิต เพราะสร้างขึ้นด้วยต้นไม้ ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเป็นตัวละครจริง ที่ต้องพิชิตเกม โดยเข้าไปในเขาวงกต และพยายามหาทางออกมาให้ได้ จากเขาวงกตที่เป็นต้นโมกซึ่งปลูกอย่างมีการวางแผน ตัดแต่งให้งดงาม ไม่มีกิ่งก้านใบให้รกตา ความสูงรักษาไว้ที่ท่วมหัวของคนทั่วไป โดยภายในเขาวงกตยังมีจุดถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างใน เช่น ลานน้ำพุ รูปปั้น สัตว์ ต้นไม้ที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปสัตว์ มีต้นไม้ใหญ่ ลานสวยๆ ดอกไม้งามๆ กรงนกยูง ประติมากรรมถ้วยหลากสีซ้อนกัน ศาลานั่งพัก เป็นต้น บ้านหมากม่วง นอกจากนี้บรรยากาศโดยรอบยังสวยงาม มีคาเฟ่ไว้บริการ เหมาะแก่การมานั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ระหว่างวัน มองทิวทัศน์สวยๆ ลมหนาวพันมาเอื่อยๆ สูดอากาศชื้นเย็นสบายๆ พิชญ์ เขาวงกต อยู่ในซอยตรงข้ามฟาร์มโชคชัย 3 เปิดเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. ค่าเข้าชม 150 บาท ด้าน บ้านหมากม่วง เป็นชื่อที่คนเฒ่าคนแก่เรียก มะม่วง ในปัจจุบัน บ้านหมากม่วง กิโลเมตรที่ 11 คือฟาร์มปลูกมะม่วงหลายสายพันธุ์ บนพื้นที่ 250 ไร่ มีมะม่วงกว่า 8,500 ต้น ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เชิงพาณิชย์ กับรสชาติที่สร้างจากภูมิปัญญา และความพิเศษของผืนดินปากช่อง ผลผลิตจากฟาร์มจึงไม่เพียงส่งมอบสินค้าคุณภาพดีให้ลูกค้าเท่านั้น แต่ผืนดินเกษตรกรรมปากช่อง ท่ามกลางขุนเขา และสายลมหนาว พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมฟาร์ม เก็บภาพกับสวนสวย และ Farm Shop พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งมะม่วงผลสด และเมนูมะม่วงอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ไอศกรีมมะม่วงรสเลิศ พุดดิ้งมะม่วง มะม่วงน้ำดอกไม้ชิ้นโตเสียบไม้ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มวัย รวมทั้งมีมะม่วงผลสวยๆ เหลืองทองลูกโต ให้ซื้อหากลับบ้าน เพียงกิโลกรัมละ 200 บาท จำหน่ายราคาเดียวตลอดปี เฉลี่ยตกลูกละ 100 บาท หรือเฉลี่ย 2 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม เปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวัน หยุดวันอังคาร ไม่หยุดวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. The Bloom by ทีวีพูล สุดท้ายเป็น The Bloom by ทีวีพูล ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จากกรุงเทพฯ บริเวณหลักกิโลที่ 144 บนถนนมิตรภาพ เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ ท่ามกลางขุนเขาและพื้นที่ผืนเดียวในเขาใหญ่ที่มองเห็นผาดำและแดงตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า มีดอกไม้มากว่า 30 สายพันธุ์ งามสะพรั่ง เบ่งบานตลอดทั้งปี โดยมีไฮไลต์ อาทิ จุดชมวิว 360 องศา แรงบันดาลใจจากลานกลางเมือง Monte Carlo, Monaco กระเป๋า HERMES ยักษ์ แรงบันดาลใจจากความฟุ้งเฟ้อแห่งถนน Champs Elysees ปารีส ฝรั่งเศส กิจกรรมป้อนอาหารแกะ แรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมเมืองโอ้กแลนด์ นิวซีแลนด์ น้ำพุ 12 ราศรี แรงบันดาลใจจาก น้ำพุเทรวี กรุงโรม อิตาลี นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ทหรูพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก แวดล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันแสน เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ เวลา 08.00-22.00 น.