3 เมษาฯ เปิดให้บริการประชาชนฟรีตลอดเดือน นำร่องสถานีสำโรงสถานีแรก คาดผู้โดยสาร5หมื่นคน/วัน และนับแสนเมื่อเปิดบริการเต็มระบบ 9 สถานี 13 กม.ปลายปี 61 คาดจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรย่านบางนา-ปากน้ำ พร้อมรองรับเชื่อมรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ในอนาคต ขณะเส้นหมอชิต-สะพานใหม่เปิดเต็มสายปี 63 เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.นำคณะเปิดการทดลองเดินรถเสมือนจริงโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จากสถานีแบริ่ง – สถานีสำโรง 1 สถานี โดยมี นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมพิธี ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าข้ามจังหวัดแห่งแรก ระหว่างกทม. และจ.สมุทรปราการ โดยรัฐบาลได้มอบหมาย รฟม. รับผิดชอบด้านการก่อสร้างงานโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน และให้ กทม.บริหารจัดการเดินรถ เพื่อให้เกิดการเดินรถที่ต่อเนื่อง ประชาชนไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายขบวนรถระหว่างสถานีแบริ่งและสถานีสำโรง จึงมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งนี้ กทม.จะทดลองเดินรถเสมือนจริงตั้งแต่วันนี้ -2 เม.ย. 60 มีการจำลองเหตุการณ์ และการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อซักซ้อมการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงประสานความร่วมมือและความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ จากนั้นจะเปิดให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.60 เป็นต้นไป โดยไม่คิดค่าโดยสารตลอดเดือนเม.ย. จากนั้นจะพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมพอดี ไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้และ กทม.ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป คาดการณ์จะมีผู้โดยสาร 40,000-50,000 คน/วัน และผู้โดยสาร 100,000 คน/วัน เมื่อเปิดให้บริการเดินรถทั้งระบบประมาณปลายปี 61 ซึ่งจะบรรเทาปัญหจราจรในเขตบางนา และจังหวัดสมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งชุมชน อีกทั้งสถานีสำโรงเป็นสถานีใหญ่ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนสายอื่นๆ ในอนาคต สำหรับ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ ระยะทางรวม 13 กิโลเมตร มี9 สถานี ได้แก่สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้าสมิงพราย สถานีพิพิธภัณฑ์เอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีสมุทรปราการ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด สถานีเคหะสมุทรปราการ ส่วนช่วงจากหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 19 กิโลเมตร 16 สถานี จะเปิดให้บริการเดินรถจากสถานีหมอชิต เชื่อมต่อกับสถานีห้าแยกลาดพร้าว ประมาณต้นปี 62 และเปิดให้บริการเดินรถตลอดเส้นทาง ภายในปี 63