เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 14 พ.ย.62พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนง รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3ร่วมกับชุดสยบไพรี และตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกปิดล้อมโกดังแห่งหนึ่งบนถนนมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตประเวศ กทม.พร้อมจับกุมนายปิยะนันท์ หรือใหญ่ พงศ์เศรษฐ์ศิริ อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 491/2562 ลงวันที่ 14 พ.ย.62 ข้อหา “ พยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” และยึดของกลางไอซ์ 36 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในลู่วิ่งไฟฟ้าออกกำลังกาย 10 เครื่อง และไอซ์อีก 122 กิโลกรัม บรรจุในลังพัสดุ 10 ลัง รวมของกลางทั้งหมดเกือบ 200 กิโลกรัม พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชุดจับกุมรับเบาะแสจากบริษัทชิปปิ้งเอกชนรายหนึ่ง ว่ามีพัสดุเตรียมส่งออกไปยังเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นลู่วิ่งออกกำลังกายมีลักษณะต้องสงสัย เพราะปกติแล้วเป็นสินค้าที่ไม่น่าจัดส่งต่างประเทศผ่านทางเครื่องบิน เนื่องจากมีต้นทุนสูง ทั้งราคาภาษีนำเข้าและค่าส่งสินค้าต่อเครื่องที่สูงกว่าตัวลู่วิ่งชนิดนี้ที่มีราคาถูก นับหมื่นบาท อีกทั้งพบว่าลู่วิ่งมีน้ำหนักมากผิดปกติ จึงเข้าตรวจสอบที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพบว่าลู่วิ่งดังกล่าว 2 เครื่อง ถูกดัดแปลงติดตั้งแท่งคานเหล็กเชื่อมหัวปิดท้าย 3 แท่งอยู่ใต้เครื่องออกกำลังกาย ภายในมีถุงชาซุกซ่อนไอซ์ รวม 36 กิโลกรัม ก่อนขยายผลทราบตัวผู้จัดส่งคือนายปิยะนันท์ จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และขยายผลทราบว่ามีของกลางเตรียมจัดส่งที่โกดังดังกล่าวบนถนนมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตประเวศ ก่อนเข้าตรวจค้นและพบของกลางกว่า 200 กิโลกรัม สอบสวนนายปิยะนันท์ ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนมีธุรกิจที่ประเทศเมียนมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีหน้าที่เป็นผู้จัดส่งพัสดุในขบวนการนี้ และไม่ได้ทำครั้งแรก ซึ่งเคยส่งพัสดุลักษณะนี้ไปยังประเทศอื่นมาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน โดยขณะนี้กำลังประสานกับทางการญี่ปุ่นว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการรายนี้ ขณะที่ไอซ์มีต้นทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยลักลอบเข้ามาจากภาคเหนือก่อนนำมาบรรจุพร้อมส่ง ส่วนโกดังแห่งนี้ ผู้ต้องหาได้เช่าไว้พักสินค้าเท่านั้น แต่เจ้าของโกดังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดอย่างใด