วันที่ 15 มี.ค.ที่ห้องทำงาน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้จัดให้มีการถลงข่าวผลการประชุมเสวนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาส่วนในจังหวัดตรัง เพื่อรับฟังความคิดเห็นสร้างความปรองดอง เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว ตามแนวของคณะกรรมการการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ ปลัดจังหวัดตรัง นายแพทย์วิฑูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง พล.ต.ธวัชชัย รักอาชีพ รอง ผอ.กอ.รมน.ตรัง ในฐานะตัวแทนผู้รับผิดชอบการรับฟังและจัดทำบทสรุปประเด็นสำคัญจากผู้เข้าร่วมประชุม ในช่วงระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม ที่ผ่านมา นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เรื่องการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น จากโครงการ ป.ย.ป.ว่ากลุ่มต่าง ๆ ที่สำคัญในแต่ละจังหวัด และในระดับประเทศก็มีแล้วรับฟังความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มการเมืองท้องถิ่น กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มข้าราชการ และกลุ่มผู้นำชุมชน ก็จะมีคำถาม 10 ข้อ จากนั้นจะมีการรวบรวม ความรู้สึก ความคิดเห็น ทัศนคติที่มีต่อคำถาม พร้อมทั้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รายละเอียดเพื่อทางสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อไป จังหวัดตรังได้ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย มีคนมาให้ความคิดเห็นร้อยละ 87.50 ตั้งใจไว้ 80 มา 70 ก็ถือว่าเปอร์เซ็นต์สูงมาก บางกลุ่มให้ข้อมูลที่ดีมาก รายละเอียดซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว่ว่า นส่วนของดำเนินการเรามีกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มการเมืองท้องถิ่น กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มข้าราชการ และกลุ่มผู้นำชุมชน กำหนดคำถามหลัก 10 เรื่อง 1)ด้านการเมือง รับฟังความคิดเห็นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย 2) ด้านลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เน้นการบริหารจัดกาน้ำ การครอบครองที่ดินทำกิน จะมีการแก้ไขไปในทิศทางใด 3) ด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม เราอยากจะรับฟังความคิดเห็นซึ่งขณะนี้ได้มีการกล่าวว่ามีการพิจารณาไม่เป็นธรรมหรือว่า 2 มาตรฐา 4) ดานสังคม ศาสนา วัฒนธรรม ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งอยู่เป็นประจำในสังคม และก็เริ่มความรุนแรงขึ้จะมีฟังความคิดเห็นว่าเราควรมีแนวทางสร้างความปรองดองกันอย่างไร 5) เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากในเรื่องของการประชาสัมพันธ์นั้นมีสื่อมวลชนที่จะต้องให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาด้วย ทางรัฐบาลโดย ท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดในประเด็นว่าเราจะทำอย่างไรที่ไม่ให้สื่อตกไปเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ว่าเป็นการเผยแพร่ข่าวสารให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้ 6) ด้านการต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิมนุษย์ชนก็ดี ปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพก็ดี จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจทุกภาคส่วน 7) ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหามาก นอจากปัญหาเรื่องของป่าไม้ ปัญหาในเรื่องของทำลายทรัพยากรแล้ว เรายังมีปัญหาเรื่องทรัพยากรทางด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขบวนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าก็ดี เราก็จะมาฟังความคิดเห็น “และส่วนเรื่องที่จะเสนอความเห็นซึ่งมี 3 ส่วนที่เป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องของแนวทางทั้งหมด นั่นก็คือ กระบวนการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ในการเสนอแนวคิดในเรื่องนี้ ก็จะโยงไปถึงการปฏิรูปประเทศ เมื่อมีการปฏิรูปประเทศแล้วก็อยากจะฟังความเห็น ในประเด็นสุดท้ายเราจะดำเนินการกระบวนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เราจะไปในทิศทางไหน นั่นคือประเด็นที่เราสอบถามหลัก นอกจากนี้ผู้ให้ความเห็นก็สามารถดำเนินการเพิ่มเติมได้” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว ขณะที่ นายแพทย์วิฑูรย์ กล่าวว่า ทั้ง 4 กลุ่มมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาและที่เชิญเข้ามาร่วมเสนอความคิดเห็น เป็นภาพที่ดีซึ่งทุกกลุ่มจะเตรียมปัญหาและข้อเสนอมา บางกลุ่มมีการประชุมย่อยก่อน คณะกรรมการอยากให้โอกาสและเวลากระชับเพื่อให้อยู่ใน 3 ชั่วโมง โดยสรุปรวม ๆ ทุกคนได้มีโอกาสพูด ทุกคนได้มีโอกาสเสนอหมด และเปิดให้เขียนได้ด้วย บางท่านข้อจำกัดเวลาในการพูด ทางคณะฯ รับเรื่องทุกฉบับ จังหวัดตรังเป็นภาพรวมที่ดีไม่มีการโต้แย้ง เป็นภาพที่รักใคร่สามัคคีเป็นอย่างดี ทางด้าน พล.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ตนเป็นหัวหน้าคณะกรรมการรวบรวมสรุปข้อมูล รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบเกี่ยวกับประเด็นการแสดงความคิดเห็น ผลจากการสรุป 10 ประเด็น โดยประเด็นแรก ด้านการเมือง ให้มีบทลงโทษนักการเมืองที่ทำผิดอย่างเด็ดขาด กำหนดอายุของนักการเมือง ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องมีวาระ 2,4 ปี กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องมาจากการเลือกตั้ง ให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของผู้บริหารในระบบราชการและการเมือง พรรคการเมืองควรมี 2 พรรคเท่านั้น ประเด็นที่ 2 ด้านความเหลื่อมล้ำ การถือครองที่ดินไปสู่ประชาชน ไม่ให้ตกอยู่ในมือของนายทุน ใช้การจัดเก็บภาษีที่ดินอันตราก้าวหน้าให้ชุมชนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่ดินและการบริหารจัดการน้ำ ให้มีความเป็นธรรมในการจัดสรรที่ดินทำกิน ประเด็นด้านกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค ปรับกระบวนการยุติธรรมจากระบบกล่าวหา เป็นระบบไต่สวน เร่งรัดกระบวนพิจารณาคดีให้รวดเร็วที่สุดไม่ล่าช้า การใช้ ม.44 ต่อผู้กระทำผิดอย่างแข็งขันจริงจัง ให้มีการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ให้นำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพิจารณาคดี “ประเด็นด้านสังคม ศึกษา สาธารณสุข แก้ไขปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาให้มีวิชาหน้าที่พลเมือง ศีลธรรม ซึ่งเหล่านี้มีการกล่อมเกลาให้เยาวชนได้รู้ตั้งแต่เด็กอย่างน้อยในอดีตได้บรรจุวิชานี้ แต่ช่วงหลังไม่ได้มีการบรรจุจึงทำให้เกิดปัญหาสังคมตามกันมามากมาย การจัดการศึกษาให้นักเรียนมีความเท่าเทียมทั้งโรงเรียนรัฐ และโรงเรียนเอกชน ปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำกันมาก และให้นำหลักสูตรการศึกษาปี 2503 มาใช้ในการเรียนการสอน ควรจะมีการเพิ่มแพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลให้มากขึ้น แก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนให้ประชาชน” พล.ต.ธวัชชัย กล่าว พล.ต.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ 5 ด้านสื่อมวลชน ให้สื่อเป็นอิสระจากการเมืองหรือนายทุน ปลูกจิตสำนึกให้สื่อมีจริยธรรมในการทำหน้าที่และเป็นกลางไม่อิงผลประโยชน์ สื่อของรัฐต้องเป็นกลางในการเสนอข่าวสารไม่สร้างความแตกแยกต่อทุกฝ่าย ประเด็นที่ 6 ด้านทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ต่อให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง มีการใช้พลังงานทางเลือกอื่นแทนพลังงานไฟฟ้า ให้มี 1 ตำบล 1 พลังงาน ให้บริษัทผู้ผลิตสินค้ารับผิดชอบปัญหาขยะด้วย ประเด็นที่ 7 ด้านการต่างประเทศ การต่างประเทศต้องชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ที่ต่างประเทศสนใจให้รวดเร็ว ชัดเจนทันเวลาเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ “ประเด็นที่ 8 การป้องกันทุจริตคอรัปชั่น ออกกฎหมายที่เด็ดขาดจริงจัง โทษรุนแรงและลงโทษผู้ทุจริตคอรัปชั่นปลูกฝังเยาวชนไม่ให้เกี่ยวกับการทุจริต เมื่อโตขึ้น ประพฤติมิชอบ โดยมีช่องทางการร้องเรียนการทุจริต โดยผู้ร้องเรียนไม่มีความผิด การปราบปรามลงโทษผู้ทุจริต ต้องรวดเร็ว ชัดเจน มีเวลากำหนดผลแน่นอน จัดให้มีการอบรมต่อต้านการทุจริต ในสถานศึกษาและชุมชน ประเด็นที่ 9 ด้านการปฏิรูปใช้หลักประชารัฐในการดำเนินงานทุกมิติ โดยการปฏิรูปต้องดำเนินการไปพร้อมกันทุกภาคส่วน นโยบายในการดำเนินต้องต่อเนื่องมีแผนชัดเจนและทำตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ประเด็นที่ 10 ด้านยุทธศาสตร์ 20 ปี ให้ภาครัฐประชาชาสัมพันธ์ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนมีความเข้าใจ มีการคิดและประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติทุกห้วงเวลาและชี้แจงให้ประชาชนทราบ” พล.ต.ธวัชชัย กล่าวในที่สุด