วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ ห้องประชุมเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรต่างๆ รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดประชุมหารือกับตัวแทน โยธาธิการและผังเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึง ผลกระทบจากการวางผังเมืองรวมเมืองพระนครศรีอยุธยา ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 โดยในการวางผังเมืองใหม่ กำหนดให้พื้นที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาเป็นที่ดินประเภทพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งอาจส่งกระทบผลกับการดำเนินชีวิต ของประชาชน ทั้งการควบคุมความสูงของอาคารสถานที่ การใช้ประโยชน์จากที่ดิน รวมถึงการใช้พื้นที่ของหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา โรงพยาบาลก็จะได้รับผลกระทบจากการวางผังเมืองในครั้งด้วย ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การว่าจ้างปรับปรุงผังเมืองใหม่ 28 ล้าน แต่ ต้องย้ายโรงพยาบาล สถานศึกษา หรือ สถานที่ที่มีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน มันคุ้มไหม ที่ประชาชน รวมตัวกันคัดค้านไม่เอาการปรับปรุงผังเมืองรวมใหม่นั้น เพราะมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของเขา ถ้าผังเมืองใหม่ให้ต้องย้ายโรงพยาบาลไปอยู่ที่ใหม่ คิดว่า หมื่นล้านก็ไม่พอ หรือ ต้องรื้อสถานศึกษาที่ก่อสร้างมาด้วยงบประมาณ หลายล้าน แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่ต้องมาถูกระงับรอรื้อถอนทิ้ง เท่ากับว่าทิ้งเงินเป็นร้อยล้าน โดยไม่ได้ประโยชน์อะไร สูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปเปล่าๆ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เงินทองมันมีค่า จึงอยากให้ ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษาการวางผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาศึกษาผลกระทบของชาวบ้านในท้องถิ่นให้ถ่องแท้ ก่อนที่จะลงมือทำ ไม่ใช่ทำไปแก้ไป ปัญหามันก็ไม่รู้จักจบสิ้น ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษาการวางผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ต้องกลับไปทบทวนใหม่ แล้วค่อยมานำเสนอกับท้องถิ่น พื้นที่ที่จะทำผังเมืองใหม่ “ให้ลองคิดง่ายๆถึงหัวอกเขาหัวอกเรา หากพื้นที่ที่จะวางทำผังเมืองใหม่เป็นบ้านของคุณ คุณจะยอมให้คนอื่นมารื้อบ้านของคุณโดยไม่ปรึกษาคุณสักคำเลยหรือ คนอยุธยาก็เหมือนกัน เขาก็ไม่อยากให้คนที่อื่นมารื้อบ้านเกิดเมืองนอน ความปรกติสุขของเขาหรอก เขาก็ต้องออกมาคัดค้าน ซึ่งในตอนนี้เขาล่ารายชื่อได้ห้าหมื่นรายชื่อแล้ว หากได้รับผลกระทบกับเขาเมื่อไหร่เขาก็พร้อมที่จะออกมาแสดงพลังได้ตลอดเวลา” ว่าที่ร้อยตรีสมทรงฯ กล่าวทิ้งท้าย วัชระ บุญแท้/อยุธยา