นางอัลปานา ดูเบ อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางมาที่ประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นการที่ โอโย โฮเทลส์ แอนด์ โฮมส์ เครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่เป็นลำดับ 2 ของโลก เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จึงน่าจะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างแน่นอน ด้าน นายมัณดา ไวดิย่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางของ โอโย กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับโอโย แต่ด้วยศักยภาพของประเทศไทยจึงน่าเป็นตลาดที่สำคัญต่อการเติบโตทางธุรกิจของโอโยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย มาเลเซีย เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โอโยเปิดให้บริการ นอกเหนือจากในประเทศอินเดีย ปัจจุบันโอโยให้บริการที่พักในมากกว่า 160 เมืองทั่วโลก ผ่านแฟรนไชส์และโรงแรมกว่า 2,500 แห่งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่ง การเปิดให้บริการในประเทศไทย จะช่วยให้ทางกรุ๊ปได้ดำเนินงานตามเป้าที่วางไว้ คือ มีห้องพักภายใต้การดูแลจัดการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 2 ล้านห้อง ภายในปี 2568 จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินสู่ประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ นายอชูโตช สิงห์ ผู้อำนวยการบริหาร ประจำประเทศไทยของโอโย กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม โดยมีวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบัน โอโยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการมอบบริการใหม่ ๆ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย ด้วยการมอบห้องพักที่มีคุณภาพ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เพลิดเพลินให้กับทุกคนในประเทศไทย พร้อมช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ประกอบการโรงแรมอิสระในประเทศในขณะเดียวกัน ปัจจุบัน โอโย ประเทศไทย เปิดให้บริการโดยมีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง จาก 250 โรงแรม ใน 13 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และ หัวหิน ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวในราคาที่พัก ซึ่งเข้าถึงได้ง่าย รองรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับที่พักราคาระดับกลางถึงบน ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อม ตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจโอโยในประเทศให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น