ชาวบ้านร้องตรวจสอบหน่วยงานรัฐแอบปล่อยน้ำในทำนบทิ้งจนแห้งขอด​

ชาวบ้านเขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องให้ตรวจสอบหลังหน่วยงานรัฐแอบใช้แบล็กโฮขุดปล่อยน้ำออกจากฝายทิ้งจนแห้งขอด อ้างได้งบมาขุดลอกใหม่แต่ไม่มีการทำประชาคม ชาวบ้านหวั่นปีนี้ไม่มีน้ำกินน้ำใช้หน้าแล้ง ทั้งแปลกใจฝายแห่งนี้ไม่เคยแห้งใช้ได้ตลอดทั้งปีแต่กลับจะขุดลอกใหม่ ไม่มีใครกล้าทักท้วงกลัวเกิดปัญหา วันนี้ (11 พ.ย.62) ตัวแทนชาวบ้านบ้านเขาคอก ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องให้ทางอำเภอ และจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีหน่วยงานของรัฐใช้รถแบล็กโฮแอบขุดปล่อยน้ำออกจากฝายหรือทำนบบ้านเขาคอก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับผลิตประปา และทำการเกษตร 3 หมู่บ้าน มี​ หมู่ 1 , 6 และหมู่ 15 กว่า 400 ครัวเรือน จนมีสภาพแห้งขอด โดยที่ไม่ได้มีการทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน มีเพียงผู้นำชุมชนมาแจ้งว่าได้รับงบประมาณมาดำเนินการขุดลอกฝายเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาว แต่ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบ ตัวแทนชาวบ้านบอกว่าไม่ได้จะคัดค้านอะไร แต่แค่แปลกใจว่าฝายหรือทำนบดังกล่าวไม่เคยเหือดแห้งเลย มีน้ำใช้ผลผลิตประปา และเพาะปลูกข้าวบริการ 3 หมู่บ้าน​ ได้ตลอดทั้งปี แต่จู่ๆ กลับมาปล่อยน้ำทิ้งจนแห้งเพื่อจะขุดลอกใหม่ ซึ่งมองว่าหากจะทำการขุดลอกจริงก็น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ไม่น่าจะปล่อยน้ำทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะปีนี้ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง น้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ก็ตื้นเขิน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและหาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพราะเกรงว่าน้ำที่เหลือในสระขนาดเล็กในหมู่บ้านจะไม่เพียงพอใช้อุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งนี้ ทั้งอยากให้มีการชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ชาวบ้านได้รับทราบด้วย นายชำนาญ สมุติรัมย์ และนายสร้อย ประจันบาล ตัวแทนชาวบ้าน บอกตรงกันว่า ทำนบดังกล่าวมีมาตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านไม่เคยเหือดแห้ง สามารถใช้อุปโภคบริโภคและทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี แต่จู่กลับมีโครงการมาขุดลอกใหม่ และปล่อยน้ำในทำนบทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ทั้งที่ปีนี้ค่อนข้างแล้ง จึงเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งนี้ ทั้งยังไม่มีการทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้านบอกเพียงว่าจะขุดลอก อีกทั้งน้ำที่ปล่อยทิ้งไปไหลเอ่อท่วมนาข้าวของชาวนาที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวเป็นบริเวณกว้างด้วย จากกรณีดังกล่าวก็อยากให้ทางอำเภอ หรือจังหวัดเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งด้วย