จากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มบ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกที่ของวันที่ 9 ที่ผ่านมาส่งผลให้เด็กหญิงศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี นอนอยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.มหาราช ขณะเดียวกันคนร้ายทีมเดียวกันยังยิงบ้านของเครือญาติอีก 3 หลัง มีเด็กชาย 4 ขวบได้รับบาดเจ็บไปอีกราย โดยนายวิชัย ยี่สุ่นแซม บิดาของเด็กหญิงศศิประภา ยืนยันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุแค่ไปดุด่า1ในกลุ่มมือปืนเทน้ำหวานให้สุนัข จนบุคคลดังกล่าวไปชักชวนเพื่อนมาก่อเหตุ ความคืบหน้าล่าสุดช่วงเช้าของวันที่ 11พฤศจิกายน 2562 พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าประชุมติดตามคดี หลังจากที่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาทีมก่อเหตุแล้ว 5 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวไว้ได้แล้ว 2 รายตามหมายจับคือนายอนุศักดิ์ หรือ เท่ห์ แดงเดช อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/23 หมู่ที่ 4 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นทั้งต้นเรื่องและผู้ร่วมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่บ้านของนายวิชัย ยี่สุ่นแซม จนทำให้เด็กหญิงศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี ลูกสาวของนายวิชัยเสียชีวิต นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังจับกุมนายวัชระ วรรณมาศ หรือบังและห์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281 หมู่ 4 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยนายวัชระ หรือบังและห์ มีหน้าที่ในการชี้เป้าบ้านของนายวิชัย ให้ทีมมือปืนเข้าก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 3 รายยังอยู่ในการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ คือนายวัฒนา หรือหัวมัน อนันทขาล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหัวโจกนำทีมเข้าก่อเหตุ นายขุนพล หรือเมย์ เงินเลี่ยม อายุ 25 ปี และนายวิศนุ หรือเถื่อน นาคคง อายุ 27 ปี ทั้งหมดอาศัยอยู่ในท้องที่ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดล้วนแต่มีประวัติและพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาวุธปืน ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดแล้วเข้าไปก่อเหตุ โดยพฤติการณ์นั้นนายอนุศักดิ์ เจ็บแค้นที่ถูกนายวิชัยดุด่าและทำร้ายจากนั้นไปขอยืมปืนจากนายวัฒนาหรือหัวมันเพื่อจะไปยิงบ้านของนายวิชัย แต่เมื่อนายวัฒนาทราบต้นเรื่องจึงเจ็บแค้นแทนนายอนุศักดิ์ชักชวนเพื่อนร่วมเข้าก่อเหตุ จากเรื่องไม่เป็นเรื่องโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่าผู้ต้องหาที่เหลืออย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายอนุศักดิ์ หรือ เท่ห์ แดงเดช อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นต้นเรื่องในคดีนี้ หลังจากถูกสอบเค้นอย่างหนักได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อย่างหมดเปลือกโดยบอกว่าเจตนาต้องการไปยิงบ้านเพื่อล้างแค้นและข่มขู่เท่านั้นไม่ได้หวังให้ถูกคนและพร้อมที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่ยอมรับว่าหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยอาจถูกญาติของผู้เสียหายทำร้าย ถ้าตายเลยนั้นจบไปแต่ถ้าไม่ตายพิกลพิการจะกลายเป็นภาระของมารดาที่อยู่ข้างหลัง นายอนุศักดิ์ ยังบอกด้วยว่าเรื่องที่ลุกลามบานปลายไปขนาดนี้ทำให้เสียใจมากและอยากขอโทษกับทุกคนแต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นไปได้นั้นขอตายแทนลูกสาวของนายวิชัย พร้อมแลกชีวิตให้เขามีชีวิตอยู่แล้วให้ผมตายแทน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังโดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว พร้อมกันนั้นนางทัดดาว ยี่สุ่นแซม มารดาของเด็กหญิงศศิประภา ผู้ตกเป็นเหยื่อได้เข้าร่วมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายด้วย