โฆษกกองทัพภาค 4 เผย หลักฐานในที่เกิดเหตุเชื่อมโยงตระกูล “หลำโซ๊ะ” ร่วมก่อเหตุ กองทัพภาค 4 เตรียมพร้อมชุดรบพิเศษ สแตนบาย 24 ชั่วโมง วันนี้ ( 8 พ.ย.62) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาค 4 เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายยิงป้อมชุดคุ้มครอง ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จนทำให้มีชาวบ้าน ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เสียชีวิตจำนวน 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย “ กองทัพภาค 4 ได้สั่งการให้มีการบูรณาการกำลัง เข้าบังคับใช้กฏหมาย กับกลุ่มบุคคล ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ โดยขณะนี้ จากหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้วจำนวนหนึ่ง และได้มีการเปิดแผนปฏิบัติการเข้าติดตาม จับกุม กดดัน กลุ่มคนร้าย ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เขานางจันทร์ ซึ่งมีเขตรอยต่อ จ.ยะลา และ จ.สงขลา และได้พบฐานปฏิบัติการร้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วจำนวน 1 จุด โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าไปปิดล้อม กดดันบริเวณเทือกเขานางจันทร์แล้วจำนวน 4 เป้าหมาย ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุน กลุ่มคนร้าย ที่พาหลบหนี เป็นพื้นที่หมู่บ้านจำนวน 9 เป้าหมาย และเป้าหมายสุดท้ายคือการเข้าติดตามตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และมีบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว จำนวน 21 เป้าหมาย โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ 1 รายเป็นราษฎรพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แต่ยังให้การปฏิเสธ ในเรื่องการบุกยิงถล่มที่ลำพะยา อยู่ระหว่างการซักถามเพื่อขยายเครือข่ายก่อเหตุที่หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี” พันเอกปราโมทย์ กล่าว โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการรักษาความปลอดภัย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปรับแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ทหารเข้าเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุมชนให้รัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้เพราะชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.)เป็นเพียงประชาชนจิตอาสา ที่เสียสละและอุทิศตน เข้ามาช่วยกันดูแลความปลอดภัยชุมชนของตนเอง ไม่ใช่เป็นกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือนดังที่องค์กรแนวร่วมและกลุ่มเปอร์มาส นำมาบิดเบือนเพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการBRN ดังที่ปรากฏให้เห็นในช่วงที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบปลอกกระสุนปืน เหตุถล่มป้อมชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา ผลตรวจปลอกกระสุนพบว่าคนร้ายใช้อาวุธปืน จำนวน 24 กระบอก ได้แก่ 1.) AK 1๐2 4 กระบอก เคยก่อเหตุ พื้นที่ อ.เมืองปัตตานี 2.) ปลย.11 4 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.เมืองยะลา, อ.เมืองปัตตานี 3.) M 16 8 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.ยะหา, อ.เมืองยะลา อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.เทพา จ.สงขลา 4.) AK 47 4 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.ยะหริ่ง อ.เมืองปัตตานี และ อ.เมืองยะลา 5.) ปพ.9 มม. 3 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อ.เทพา จ.สงขลา และ อ.เมืองยะลา 6.) ลูกซอง 1 กระบอก 7.) ขนาด 40 1 กระบอก