“เจตาแบค”ประกาศงบไตรมาส 3 รายได้ 415.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.32%มีกำไร 42.31 ล. เพิ่มขึ้น 31.46 ล. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน งวด 9 เดือนรายได้ 849.44 ล้านบาท มีกำไร 55.02 ล้านบาท กำ Backlog อีก 922.23 ล้านบาทรับรู้ช่วงที่เหลือของปีต่อเนื่องถึงปีหน้า ชี้ผลประกอบการรวมปีนี้เข้าสู่ภาวะปกติ หลังปีก่อนผลงานแผ่ว เหตุทุ่มพัฒนาสินค้าใหม่ที่มี technology สูงเพื่อขยายและต่อยอดธุรกิจระยะยาว พร้อมลุยงานต่างประเทศ สร้างโรงงานเพิ่มในเวียดนาม และ บริษัทร่วมทุนในเยอรมนีเริ่มมีออเดอร์ต่อเนื่อง นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GTB ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Steam Boiler)และระบบเผาไหม้ (Combustion System)ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (Thermal Energy Engineering)ที่เกี่ยวกับเรื่องประหยัดพลังงาน และ Energy Solution Provider เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ว่า บริษัทมีรายได้ 415.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.32% มีกำไร 42.31 ล้านบาท และงวด 9 เดือน บริษัทฯมีรายได้ 849.44 ล้านบาท มีกำไร 55.02 ล้านบาท โดยผลประกอบการดังกล่าวส่งผลจากที่บริษัทฯและบริษัทย่อยรับรู้รายได้จากส่วนของวิศวกรรมการออกแบบ ส่วนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้าได้ตามสัญญาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดยจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว ทำให้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯโดยรวมในปี 2562 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังในปี 2561 กำไรลดลง สาเหตุหลักสืบเนื่องจากบริษัทฯได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มี technology สูงเพื่อรองรับตลาด Industry 4.0 เช่น IGTB ที่บริษัทได้รับรางวัลทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) การขยายขอบเขตสู่ธุรกิจพลังงาน ทั้งนี้เป็น Energy Solution Provider คือการให้บริการ ออกแบบ ผลิต และ ติดตั้ง ระบบและอุปกรณ์ที่นำพลังงานความร้อนที่สูญเสียกลับใช้ประโยชน์ใหม่ในขบวนการผลิตรวมทั้งผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งการติดตั้งเครื่องจักรใหม่และขยายโรงงาน เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมาก เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโตของบริษัทฯในระยะยาว ช่วงที่เหลือของปี 2562 บริษัทมีงานในมืออีกกว่า 922.23 ล้านบาทพร้อมผลิตและส่งมอบเพื่อรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มาจากในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20% ขณะเดียวกันบริษัทให้ความสำคัญกับการบุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนโดยเริ่มลุยที่ประเทศเวียดนามก่อน ได้จัดตั้งสำนักงานออฟฟิศเรียบร้อยแล้วดำเนินการภายใต้ บริษัท เจตาแบค เวียดนาม จำกัด (GTV) บริษัทมีแผนการจะก่อสร้างโรงงาน 1 แห่งที่ประเทศเวียดนามเพื่อรองรับโครงการใหญ่หลายโครงการเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งเวียดนามมีการลงทุนจากทุกๆอุตสาหกรรมมากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอาหารที่มีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลต่อความต้องการใช้เครื่องกำเนิดไอน้ำและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยก่อนหน้านี้ GTV ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ 3 ราย มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ที่คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 60% และส่งผลให้ GTV ในปีนี้กลับมามีกำไรเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานขาดทุนในปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทร่วมทุน SCHNEIDER Energy Systems GmbH จดทะเบียนและจัดตั้งในประเทศเยอรมนี โดยบริษัทถือหุ้นร่วมกับ SCHNEIDER-KESSEL Beteilligungs GmbH ในสัดส่วน 40:60 เพื่อดำเนินธุรกิจออกแบบทางวิศวกรรมด้านประหยัดพลังงาน ผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งงานติดตั้งและบริการ ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามา โดยบริษัทคาดหวังว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ นอกจากช่วยเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มบริษัท และขยายธุรกิจในประเทศแถบยุโรป และอเมริกา เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทแล้วยังเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูงจากประเทศเยอรมัน มาให้กับกลุ่มบริษัทเจตาแบค จำกัด(มหาชน)หรือ GTBในการพัฒนาผลิตสินค้าใหม่ๆที่มีเทคนิคสูงเพื่อรองรับตลาด Industry 4.0 จากการขยายงานต่างประเทศที่กล่าวมาจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในอนาคต