กำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเฝ้าระวังห้ามมิให้มีผู้ค้ากลับมาทำการค้าในจุดที่ยกเลิกแล้ว และเน้นย้ำให้กวดขันแผงค้าในทุกวันจันทร์ต้องไม่มีผู้ค้าตั้งวางแผงค้าโดยเด็ดขาด นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมแนวดิ่งสำนักเทศกิจ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานผลการดำเนินนโยบายด้านการจัดระเบียบหาบเร่ - แผงลอย โดยจัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีจำนวน 683 จุด ปัจจุบันได้ดำเนินการประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันเรียบร้อยแล้ว จำนวน 508 จุด ยังเหลือจุดผ่อนผันที่อยู่ระหว่างดำเนินการยกเลิกอีก จำนวน 175 จุด ในพื้นที่ 19 สำนักงานเขต ซึ่งตามแผนปฏิบัติการจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.62 ทั้งนี้ในรอบเดือนต.ค.62 สำนักงานเขตบางกอกน้อย เสนอยกเลิกจุดผ่อนผัน จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช และจุดหน้าห้างแมคโคร ถนนจรัญสนิทวงศ์ ขณะนี้สำนักเทศกิจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพื่อเสนอผู้บริหารลงนามประกาศยกเลิก สำหรับการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.61 - 6 พ.ย.62 สำนักงานเขต จับกุม 25,362 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,224 ราย ดำเนินคดี 19,066 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 2,071 รายปรับเป็นเงิน 19,375,800 บาท โดยระหว่างวันที่ 1 - 6 พ.ย.62 สำนักงานเขตจับกุม 218 ราย ดำเนินคดี 218 ราย ปรับเป็นเงิน 446,500 บาท ด้านการดำเนินการกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.61 - 6 พ.ย.62 สำนักงานเขตจัดเก็บ 131,298 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 50 ราย จับปรับ 2,964 คดี ปรับเป็นเงิน 9,847,200 บาท โดยระหว่างวันที่ 1 - 6 พ.ย.62 สำนักงานเขต จัดเก็บ 1,226 ป้าย จับ-ปรับ 23 คดี ปรับเป็นเงิน 77,000 บาท ทั้งนี้ได้มีการกำชับให้ทุกสำนักงานเขตเข้มงวดกวดขันเฝ้าระวังห้ามมิให้มีผู้ค้ากลับมาทำการค้าในจุดที่ยกเลิกแล้ว และเน้นย้ำให้กวดขันแผงค้าในทุกวันจันทร์ต้องไม่มีผู้ค้าตั้งวางแผงค้าโดยเด็ดขาด สำหรับจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ประกาศยกเลิกให้สำนักงานเขตดำเนินการตรวจตรา จัดระเบียบให้ผู้ค้าถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กรุงเทพมหานครกำหนดโดยเคร่งครัด หากมีจุดผ่อนผันที่สามารถดำเนินการยกเลิกได้ให้ดำเนินการตามขั้นตอนและเสนอให้สำนักเทศกิจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการยกเลิกจุดผ่อนผันต่อไป นอกจากนี้ได้มอบหมายทุกสำนักงานเขตสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัด Walking Street ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กทม. ในเบื้องต้นมอบหมายสำนักงานเขตพิจารณาความเหมาะสมว่าพื้นที่ใดสามารถดำเนินการได้ อาทิ ถนนสีลม ถนนเยาวราช ถนนข้าวสาร หรือบริเวณแยกราชประสงค์ ทั้งนี้ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนหรือผู้ใช้ทางเท้าในการสัญจร และไม่กระทบต่อการจราจร โดยให้เสนอมายังสำนักเทศกิจเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมต่อไป นายสกลธี กล่าวต่อว่า สำหรับการกวดขันผู้ฝ่าฝืนจอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าสาธารณะ แม้ว่ากทม. จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าผู้ฝ่าฝืนยังคงมีอยู่ จึงกำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจทุกสำนักงานเขตดำเนินการอย่างเข้มงวดและจริงจัง และให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนจุดกวดขันให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่เขตรวมทั้งเพิ่มความถี่ในการกวดขันให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลสำหรับการพิจารณาดำเนินการกวดขันผู้ฝ่าฝืนฯ ต่อไปในอนาคต ให้เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมระบุประเภทของผู้กระทำการฝ่าฝืนเพิ่มเติม อาทิ ประชาชนทั่วไป แกร็ป หรือวินจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นต้น ส่วนการแก้ไขปัญหาวินจักรยานยนต์รับจ้างที่ตั้งอยู่บนทางเท้า ซึ่งมีจำนวนกว่า 500 วิน กรุงเทพมหานครมีแผนดำเนินการปาดทางเท้าเพื่อย้ายวินออกจากทางเท้าโดยพิจารณาจุดที่มีความเหมาะสมและทางเท้ากว้างเพียงพอ รวมทั้งย้ายลงมาตั้งวินฯ ในจุดจอดแท็กซี่อัจฉริยะ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลในการแก้ไขข้อบังคับต่างๆ ก่อนเริ่มดำเนินการ ขณะเดียวกันได้มอบหมายทุกสำนักงานเขตเร่งสำรวจพื้นที่ หากจุดใดสามารถดำเนินการย้ายวินฯ ออกจากทางเท้าได้ให้ดำเนินการทันที โดยให้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน เบื้องต้นได้รับรายงานว่าขณะนี้ดำเนินการย้ายออกจากทางเท้าแล้ว เกือบ 200 วิน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 300 วิน จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำวินฯ ออกจากทางเท้าทั้งหมด เพื่อลดข้ออ้างในการขับขี่บนทางเท้า ด้านการจัดเก็บป้ายที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้เน้นย้ำให้ทุกเขตเข้มงวดกวดขันการติดตั้งป้ายผิดกฎหมายในที่สาธารณะโดยให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพบว่าในบางจุดยังมีผู้ฝ่าฝืน โดยเฉพาะในซอยขอให้กวดขันอย่างจริงจัง