“TPS” ขายไอพีโอ 80 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง ในราคาไอพีโอหุ้นละ 2.50 บาท นักลงทุนตอบรับท่วมท้น ระบุเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสื่อสารเติบโตตามแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายประเทศไทย 4.0 และแผนพัฒนาดิจิทัล โชว์จุดเด่นผู้นำเสนอโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร และได้รับ Gold Certified Partner จาก Cisco ผู้นำตลาดอุปกรณ์ เครือข่ายระดับโลก เตรียมนำเงินไปใช้ลงทุนตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย และสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่เตรียมพร้อมลงสนามเทรดวันที่ 15 พ.ย.62
น.ส.พัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอ จำนวน 80 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็นเงินมูลค่า 200 ล้านบาทระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยมียอดจองซื้อหุ้น IPO เข้ามาเต็มทั้งจำนวนและยังมีความต้องการส่วนเกินที่สอบถามเข้ามาอีกจำนวนมาก ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัท
โดยการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ TPS ถือว่าประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต สำหรับการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน
ทั้งนี้คาดว่าจะมีความต้องการส่วนเกินเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานขณะที่ราคาไอพีโอที่ 2.50 บาทต่อหุ้น มีค่าพีอีเรโชเพียง 11.57 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่ดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน และหุ้น TPS เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่ 15 พ.ย.62 โดยอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า TPS”
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน)(TPS)กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของบริษัทในการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตร และคู่ค้า รวมทั้งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้กับผู้ถือหุ้น ที่สำคัญคือธุรกิจอยู่ในช่วงเติบโตสู่ยุคดิจิทัล จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีแนวโน้มเติบโตตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อีกทั้ง TPS เป็นพันธมิตรในระดับ Gold Certified Partner กับ Cisco ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์เครือข่ายฯ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปัจจุบันเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต เพราะมีส่วนสำคัญช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ TPS ถือว่าประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต สำหรับการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน
ทั้งนี้คาดว่าจะมีความต้องการส่วนเกินเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานขณะที่ราคาไอพีโอที่ 2.50 บาทต่อหุ้น มีค่าพีอีเรโชเพียง 11.57 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่ดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน และหุ้น TPS เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่ 15 พ.ย.62 โดยอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า TPS”
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน)(TPS)กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของบริษัทในการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตร และคู่ค้า รวมทั้งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้กับผู้ถือหุ้น ที่สำคัญคือธุรกิจอยู่ในช่วงเติบโตสู่ยุคดิจิทัล จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีแนวโน้มเติบโตตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อีกทั้ง TPS เป็นพันธมิตรในระดับ Gold Certified Partner กับ Cisco ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์เครือข่ายฯ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปัจจุบันเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต เพราะมีส่วนสำคัญช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน