“AIT”เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกจากงบเฉพาะกิจการของปี 2562 ทำกำไรสุทธิ 286 ล้านบาท รายได้ 4,796 ล้านบาท ตุน Backlog ในมือทะลักรวมมูลค่า 8,000 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ทำรายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมเดินหน้าเตรียมประมูลงานภาครัฐและเอกชนด้านโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมมูลค่ากว่า 8,300 ล้านบาท นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/62 (ก.ค.-ก.ย.62)จากงบเฉพาะกิจการ บริษัทมีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ เพิ่มขึ้น 21% ที่มีกำไรสุทธิ 78 ล้านบาท และมีรายได้ที่ 1,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,053 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก(จากเฉพาะงบกิจการ) ในปี 2562 (เดือนม.ค.-ก.ย.)มีกำไรสุทธิ 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 227 ล้านบาท มีรายได้รวม 4,796 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 3,128 ล้านบาท ปัจจัยมาจากการที่บริษัทส่งมอบงานได้ตามแผนที่วางไว้ อาทิ โครงการจ้างงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โครงการจัดให้มีการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO 2)และโครงการ ของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นต้น ช่วยสนับสนุนการเติบโตให้แก่ AIT ได้อย่างต่อเนื่อง “มั่นใจรายได้ของ AIT ในปีนี้สามารถทำผลงานได้เกินเป้าหมาย โดยปัจจุบันมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 1 พ.ย.62 รวมประมาณ 8,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโครงการที่รอคำสั่งซื้ออยู่อีกจำนวนกว่า 1,200 ล้านบาท” โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ AIT เตรียมเข้าประมูลงานใหม่ รวมมูลค่ากว่า 8,300 ล้านบาท มุ่งเน้นเข้าประมูลงานวางระบบของภาครัฐและภาคเอกชนมากขึ้น หลังจากองค์กรต่างๆมีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น จึงเป็นโอกาสที่ดีของ AIT ในการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญงานด้านการวางระบบโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าไปนำเสนองานแก่หน่วยงานต่างๆ ประกอบกับรัฐบาลชุดใหม่ได้ทยอยผลักดันโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่ประเทศมากขึ้น