นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลประจำวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา 12.00 น. โดย คพ. ร่วมกับ กทม. ทั้ง 44 สถานี พบว่าปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 38-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก.ลบม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง 27 สถานี และระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 17 สถานี ได้แก่พื้นที่ เขตบางคอแหลม (สูงสุด 68 มคก.ลบม.) ริมถนนกาญจนาภิเษก ริมถนนดินแดง เขตบางรัก เขตปทุมวัน เขตยานนาวา เขตบางซื่อ เขตคลองสาน เขตภาษีเจริญ เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตหลักสี่ เขตบางกอกน้อย เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พื้นที่ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง และ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาก่อนหน้า นายประลอง กล่าวต่อว่า การปฎิบัติตัวในสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุขยังคงประกาศแจ้งเตือนในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้งหากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละอองรวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน "คพ. ได้ประสานแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ดังกล่าว ให้ดำเนินมาตรการควบคุม กำกับ และดูแลแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองที่เกิดจากกิจกรรม เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นให้กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วที่สุด และขอความร่วมมือประชาชนและหน่วยงานต่างๆงดใช้รถยนต์/รถโดยสารควันดำอย่างเด็ดขาด งดการเผาในที่โล่งทุกประเภท รวมถึงควบคุมกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง คพ. และ กทม. ยังคงติดตามตรวจสอบและรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศต่อสาธารณะเป็นประจำทุกวัน โดยประชาชนติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบ Real Time ได้ทางเว็บไซต์ air4thai.com/webV2 แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ http://bangkokairquality.com/bma/index.php" นายประลอง กล่าว