น้องครีม - ชลิตา เอี่ยมสะอาด เน็ตไอดอล ซื้อคอร์สรักษาหน้าคลินิกชื่อดัง หลังทาครีมสิวขึ้นหน้าเพียบจนต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่งครีมให้ อย.ตรวจพบazeleic acidสารห้ามใช้ ในเครื่องสำอาง รายการที่ 1238 เข้าร้อง สคบ.กว่า 10 เดือน แต่ทางคลินิกบ่ายเบี่ยงไม่มาเจรจา เลยเข้าแจ้งความ ปคบ.
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 พ.ย.62 ที่ กก.4 บก.ปคบ.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) น้องครีม น.ส.ชลิตา เอี่ยมสะอาด อายุ 19 ปี นางแบบ/เน็ตไอดอล /ดารานักแสดงเรื่อง"ลวงฆ่าล่ารัก ช่องพีพีทีวี"(กำลังจะออนแอร์ )พร้อมนายชลอ เอี่ยมสอาด อายุ 67 ปี คุณพ่อ น.ส.สุนิศา ชมพูนุช ทีมทนายคลายทุกข์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. ศุภชัย สมหมาย รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคลีนิคเสริมความงามแห่งหนึ่ง เนื่องจากใช้ครีมที่มีสารต้องห้ามทาใบหน้าจนใบหน้าเกือบพังและไม่รับผิดชอบ
น.ส.ชลิตา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.61 ได้ไปรับบริการรักษาผิวหน้าที่คลีนิคแห่งหนึ่ง สาขาบางกะปิ ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าห้างตะวันนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.คอร์สการรักษารวม 3,600 + 800 บาท ได้จ่ายครีมหน้าขาวจำนวน 7 หลอด จากนั้นเกิดอาการแพ้ มีเม็ดสิวเห่อขึ้นที่ใบหน้า บริเวณหน้าผากและแก้มจำนวนมาก จึงได้ไปหาแพทย์ที่ รพ.ลาดพร้าว หมอวินิจฉัยว่าผิวหนังอักเสบ แนะนำให้ส่งผลิตภัณฑ์ของคลีนิคดังกล่าวส่งไปตรวจสอบที่ อย. โดยวันที่ 12 ธ.ค.61จึงนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาใบหน้าที่เป็นครีมของคลินิกดังกล่าวส่งไปตรวจสอบยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พอวันที่ 26 ก.พ.62 อย.ได้แจ้งผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาวทั้งสองหลอดพบสาร azelaic acid ซึ่งเป็นสารอันตราย และเป็นสารต้องห้าม ในตัวยาที่ใช้สำหรับผิวหน้า จึงได้แจ้งเข้าพบ พ.ต.ท.มนเดช มาแนม สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานวันที่ 18 มี.ค.62 ส่วนสารที่พบเป็นสาร azelaic acid ซึ่งเป็นสารอันตราย และเป็น สารห้ามใช้ ในเครื่องสำอาง รายการที่1238 ในตัวยาที่ใช้สำหรับผิวหน้า ได้ติดต่อกับทางคลินิกดังกล่าวเพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สคบ.เพื่อเจรจาให้คลินิกดังกล่าวรับผิดชอบ แต่ผ่านมาจนบัดนี้ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรม ด้วยการมาแจ้งความตำรวจ บก.ปคบ.ในวันนี้
ผู้เสียหายกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าคลีนิคแห่งนี้ เคยถูก อย.เข้าตรวจค้นและยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวนมาก ไปทำการตรวจสอบพบว่าผลิตเพื่อขายและขายเครื่องสำอาง ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ เครื่องสำอางดังกล่าว มีส่วนผสมของสารต้องห้ามที่เป็นอันตรายผสมอยู่ อัยการฟ้องศาลอาญา (คดีหมายเลขดำที่ อ.2357/2562 )(คดีหมายเลขแดงที่ อ.2324/2562 ) เมื่อปี พ.ศ.59 โดยยื่นฟ้องบริษัทแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) เป็นจำเลยที่ 1และ น.ส.ณัฐชรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นจำเลยที่ 2 ศาลอาญาได้พิพากษา เมื่อ 5 ก.ย.2562 เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ โดยมีวัตถุดิบต้องห้าม azelaic acid สารห้ามใช้ ในเครื่องสำอาง รายการที่1238 เป็นส่วนผสม ฯลฯ ตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 2 รวมแต่ละกระทง 94 เดือน ปรับจำเลยทั้งสองรายละ 290,000 บาทบาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 47 เดือน ปรับจำเลยที่หนึ่งและสองคนละ 145,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงโทษไว้ 2 ปี
น.ส.ชลิตา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.61 ได้ไปรับบริการรักษาผิวหน้าที่คลีนิคแห่งหนึ่ง สาขาบางกะปิ ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าห้างตะวันนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.คอร์สการรักษารวม 3,600 + 800 บาท ได้จ่ายครีมหน้าขาวจำนวน 7 หลอด จากนั้นเกิดอาการแพ้ มีเม็ดสิวเห่อขึ้นที่ใบหน้า บริเวณหน้าผากและแก้มจำนวนมาก จึงได้ไปหาแพทย์ที่ รพ.ลาดพร้าว หมอวินิจฉัยว่าผิวหนังอักเสบ แนะนำให้ส่งผลิตภัณฑ์ของคลีนิคดังกล่าวส่งไปตรวจสอบที่ อย. โดยวันที่ 12 ธ.ค.61จึงนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาใบหน้าที่เป็นครีมของคลินิกดังกล่าวส่งไปตรวจสอบยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พอวันที่ 26 ก.พ.62 อย.ได้แจ้งผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาวทั้งสองหลอดพบสาร azelaic acid ซึ่งเป็นสารอันตราย และเป็นสารต้องห้าม ในตัวยาที่ใช้สำหรับผิวหน้า จึงได้แจ้งเข้าพบ พ.ต.ท.มนเดช มาแนม สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานวันที่ 18 มี.ค.62 ส่วนสารที่พบเป็นสาร azelaic acid ซึ่งเป็นสารอันตราย และเป็น สารห้ามใช้ ในเครื่องสำอาง รายการที่1238 ในตัวยาที่ใช้สำหรับผิวหน้า ได้ติดต่อกับทางคลินิกดังกล่าวเพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สคบ.เพื่อเจรจาให้คลินิกดังกล่าวรับผิดชอบ แต่ผ่านมาจนบัดนี้ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรม ด้วยการมาแจ้งความตำรวจ บก.ปคบ.ในวันนี้
ผู้เสียหายกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าคลีนิคแห่งนี้ เคยถูก อย.เข้าตรวจค้นและยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวนมาก ไปทำการตรวจสอบพบว่าผลิตเพื่อขายและขายเครื่องสำอาง ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ เครื่องสำอางดังกล่าว มีส่วนผสมของสารต้องห้ามที่เป็นอันตรายผสมอยู่ อัยการฟ้องศาลอาญา (คดีหมายเลขดำที่ อ.2357/2562 )(คดีหมายเลขแดงที่ อ.2324/2562 ) เมื่อปี พ.ศ.59 โดยยื่นฟ้องบริษัทแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) เป็นจำเลยที่ 1และ น.ส.ณัฐชรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นจำเลยที่ 2 ศาลอาญาได้พิพากษา เมื่อ 5 ก.ย.2562 เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ โดยมีวัตถุดิบต้องห้าม azelaic acid สารห้ามใช้ ในเครื่องสำอาง รายการที่1238 เป็นส่วนผสม ฯลฯ ตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 2 รวมแต่ละกระทง 94 เดือน ปรับจำเลยทั้งสองรายละ 290,000 บาทบาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 47 เดือน ปรับจำเลยที่หนึ่งและสองคนละ 145,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงโทษไว้ 2 ปี