ดนตรี / วรรณากร ทองเสริม เรด เฮิร์ส เป็นวงเฉพาะกิจที่เกิดจากการรวมตัวของศิลปิน 3 ราย ประกอบด้วย แจ็ค แอนโทนอฟฟ์ นักร้องนำของ บลีชเชอร์ส วงอินดี้ป๊อปจากนิวยอร์ก ผู้มีประสบการณ์ด้านการแต่งเพลงและอำนวยการผลิตเพลงให้ศิลปินดังๆ หลายราย เช่น เทย์เลอร์ สวิฟท์, ลานา เดล เรย์, คาร์ลี เร เจพเซ็น, ทรอย ซีวาน คนที่สองคือ แซม ดิว นักร้อง/นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ ผู้แต่งท่อนฮุคติดหูให้เพลง “LoveHate Thing” และยังเป็นคนร่วมเขียนเพลงให้ศิลปินดังๆ อย่าง รีแอนน่า, แมรี่ เจ, ไบลก์, เจสซี่ แวร์ สมาชิกคนสุดท้ายของวงเป็นที่รู้จักในนามของ “ซาวน์เวฟ” หรือชื่อจริงว่า มาร์ค แอนโธนี่ สเปียร์ส คนนี้มาสายฮิป-ฮอป ร่วมงานกับศิลปินใหญ่สายนี้อย่าง ทิมบาแลนด์ มาแล้ว รวมถึงทำงานให้ เคนดริค ลามาร์ เขาเคยร่วมงานกับ แอนโทนอฟฟ์ และ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ในการเขียนเพลง “London Boy” ซึ่งอยู่ในอัลบั้มใหม่ชุด Lover ของ สวิฟท์ จะบอกว่าอัลบั้ม Red Hearse เป็นโปรเจกต์ดนตรีชุดพิเศษของ แอนโทนอฟฟ์ ก็ได้ ตอนแรกพวกเขาคิดจะทำกันเล่นๆ สนุกๆ แต่ก็ได้ผลงานแบบจริงจังออกมา 8 เพลงถ้วน เป็นอัลบั้มที่ไม่สั้น แต่ก็ไม่ยาว ซิงเกิลสองเพลงแรกคือ “Red Hearse” และ “Honey” ถูกปล่อยออกมาก่อนจะไปเปิดตัวในรายการโทรทัศน์ “เดอะ ทูไนท์ โชว์” ของ จิมมี่ ฟอลลอน พิธีกรชื่อดัง ด้วยเพลง “Half Love” แล้วจึงปล่อยอัลบั้มเต็มที่ใช้ชื่อเดียวกับวงออกสู่ตลาด ทั้ง 8 เพลงของอัลบั้มนี้อาจไม่ใช่เพลงที่ฟังแล้วปิ๊งเลยได้ในทันทีไปเสียทั้งหมด แต่ก็มีหลายเพลงที่ติดหูได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น “Half Love”, “You Make It Easy” และ “Honey” ขณะที่บางเพลง อย่างเช่น “Violence” หรือเพลงที่เป็นชื่ออัลบั้มอย่าง “Red Hearse” อาจจะฟังแปลกๆ หน่อยในตอนแรก ชวนให้สงสัยว่าเขาจะเดินเพลงต่อไปได้อย่างไรและจะรอดจนจบเพลงไหม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหาทางออกจนได้ แซม ดิว ผู้รับหน้าที่ร้องนำในอัลบั้มนี้อาจไม่ใช่นักร้องที่โดดเด่น แต่ก็เป็นเจ้าของเสียงที่มีแรงดึงดูดคนฟังและมีเสน่ห์พอที่จะไม่โดนดนตรีในพื้นหลังกลบจนมิด โดยเฉพาะเสียงกลองแข็งๆ อย่างในเพลง “Born To Bleed” หรือ “Blessin Me” เพลงของ เรด เฮิร์ส ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามหรือตั้งใจในการฟังมากมายนัก โดยรวมแล้วเป็นอัลบั้มที่ฟังได้เพลินๆ ในยามที่ไม่ต้องการคิดอะไรมากหรือต้องการเพียงให้มีเสียงเป็นเพื่อนและไม่ต้องการฟังอะไรที่หวานๆ เลี่ยนๆ จนเกินไป นี่ไม่ใช่อัลบั้มแห่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่หรือบุกเบิกดนตรีแห่งอนาคต หากเป็นเพียงงานทดลองที่สร้างความสนุกให้ได้ทั้งคนฟังและคนทำ