หนุ่มขอนแก่นไอเดียบรรเจิด นำป้ายไวนิลที่ไม่ใช้แล้ว มาประดิษฐ์เป็นถุงช้อปปิ้งสุดเก๋ พร้อมเป็นตัวกลางกระจายงานสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชนได้ร่วมกันประดิษฐ์แม้จะต้องควักทุนตัวเองก็ยอม
เมื่อเวลา 15.00. วันที่ 29 ต.ค.2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ทำการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 227/75 ม.6 ถ.ประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตกระเป๋าจากป้ายไวนิล รวมไปถึงเศษวัสดุเหลือใช้ ที่กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบสินค้าแปลกใหม่และผู้ที่ต้องการที่จะลดขยะและนำสิ่งของที่ไม่ใช้ประโยชน์กลับมาสรา้งประโยชน์อีกครั้ง โดยพบนายณัฐวุฒิ ศรีอาจ อายุ 40 ปี ประธานกลุ่มฯ กำลังขมักเขม้นกับการผลิตสินค้าต่างๆ โดยมีสมาชิกของกลุ่มฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน ที่ต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือผลิตสินค้าประเภทต่างๆจากป้ายไวนิลและวัสดุเหลือมใช้อยู่เป็นจำนวนมาก
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ ก็จะพบว่า เมื่อไปซื้อสินค้าที่ร้าน ทางร้านจะคิดค่าถุงพลาสติกใบละ 30 บาท ซื้อบ่อยก็เสียค่าถุงบ่อย และถุงที่ได้มาก็จะเป็นขยะในห้องพัก เฉพาะลำพังคนเดียวก็จะพบว่ามีถุงพลาสติกจำนวนมากและหลายใบ และหากมองรวมกัน ทั้งในชุมชน ในประเทศ ก็จะยิ่งเยอะขึ้นไปเป็นทวีคูณ จึงมีความคิดว่า ถ้ามีถุงหิ้วหรือกระเป๋าที่สามารถหิ้วไปตลาดหรือห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ที่เป็นของส่วนตัว น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และไม่ก่อให้เกิดขยะถุงพลาสติก
" เมื่อกลับถึงประเทศไทย ขณะเดินทางกลับบ้าน พบพนักงานของสินค้าดังยี่ห้อหนึ่ง กำลังเก็บป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ข้างถนน จึงได้จอดรถเข้าไปสอบว่า ป้ายไวนิลที่เก็บไปจะนำไปทิ้งที่ไหน พนักงานบอกว่าจะนำไปทิ้งแต่ยังไม่รู้ว่าจะทิ้งที่ไหน จึงได้ขอป้ายดังกล่าวกลับมาที่บ้าน จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้การตัด และเย็บกระเป๋าด้วยตัวเองทั้งกระเป๋าผ้าและไวนิล และซื้อจักรพร้อมอุปกรณ์การเย็บ มีการเรียนรู้จนชำนาญ จึงตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี และตั้งใจจะทำกระเป๋าจากป้ายไวนิลเพียงอย่างเดียว เพราะไวนิล ทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ร้านค้า หน่วยงานราชการ เอกชน อปท.และห้างสรรพสินค้า ปลดป้ายไวนิลลงมาก็จะกลายเป็นขยะและไร้ประโยชน์ โดยที่ร้านของเก่าก็ไม่รับซื้อ"
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อมีความชำนาญในการตัดเย็บ ก็ได้เย็บกระเป๋าจากไวนิลใช้เองในครอบครัวจากนั้นก็แจกให้ญาติพี่น้องเพื่อนสนิทนำไปใช้ ในขณะเดียวกันก็คิดต่อยอด ที่จะสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และลดปัญหาขยะ โลกร้อน จึงได้ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี ขึ้นมา พร้อมๆกับการขอเข้าพบผู้บริหารห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น เพื่อขอป้ายไวนิลที่ปลดลงจากการโฆษณา ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี โดยทางห้างได้มอบไวนิลให้ทางกลุ่มฟรีๆแล้วยังรับซื้อกระเป๋าไวนิลจากทางกลุ่มอีกใบละ 19 บาท เพื่อนำไปวางขายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งขณะนี้ทางห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น ส่งป้ายไวนิลให้กับกลุ่มและรับกระเป๋าจากทางกลุ่มไปแล้วประมาณ 3 เดือน
" เมื่อได้ป้ายวินิลมาก็จะทำการตัดกระเป๋า ซึ่งเป็นกระเป๋าหูหิ้วแบบง่ายๆ ให้ผู้ที่เป็นเครือข่ายนำกลับไปเย็บที่บ้าน โดยทางกลุ่มจะคิดค่าเย็บกระเป๋าให้ใบละ 5 บาท ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 7 เครือข่ายที่มารับกระเป๋าไปเย็บ เฉลี่ยเครือข่ายละ 200 ใบ ภายใน 1 อาทิตย์ก็แล้วเสร็จ ในขณะเดียวกันก็มีคุณครูจากโรงเรียนที่จังหวัดชลบุรี ได้ประสานมาที่กลุ่มให้ทำการเย็บกระเป๋าไวนิลให้ โดยที่ทางโรงเรียนได้ส่งป้ายโฆษณาของทางโรงเรียนมาให้ ซึ่งเมื่อตัดออกมาเป็นกระเป๋าแล้ว และคัดไวนิลที่ไม่สมบูรณ์ออกจะได้กระเป๋าประมาณ 300 ใบ ซึ่งทางกลุ่มก็จะคิดค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม งเป็นราคาที่โรงเรียนพอใจ"
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในพื้นที่ขอนแก่น หากมีป้ายไวนิลที่ทำกิจกรรม และการประชาสัมพันธ์ ผ่านไปแล้วอย่าทิ้ง เพราะไวนิล มีประโยชน์มากกว่าที่คิดทิ้งก็เป็นขยะ เพิ่มมลพิษ รีไซเคิลก็ไม่ได้ รบกวนให้ประสานมาที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี เลขที่ 227/75ม.6 ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื่องจากสามารถนำมาทำประโยชน์ได้อีก เพราะนอกจากกระเป๋า ทางกลุ่มฯเรากำลังจะผ้ากันเปื้อน ร่ม และเสื้อกันฝน เพื่อลดขยะ ลดโลกร้อน และสร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไปอีกด้วย
เมื่อเวลา 15.00. วันที่ 29 ต.ค.2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ทำการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 227/75 ม.6 ถ.ประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตกระเป๋าจากป้ายไวนิล รวมไปถึงเศษวัสดุเหลือใช้ ที่กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบสินค้าแปลกใหม่และผู้ที่ต้องการที่จะลดขยะและนำสิ่งของที่ไม่ใช้ประโยชน์กลับมาสรา้งประโยชน์อีกครั้ง โดยพบนายณัฐวุฒิ ศรีอาจ อายุ 40 ปี ประธานกลุ่มฯ กำลังขมักเขม้นกับการผลิตสินค้าต่างๆ โดยมีสมาชิกของกลุ่มฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน ที่ต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือผลิตสินค้าประเภทต่างๆจากป้ายไวนิลและวัสดุเหลือมใช้อยู่เป็นจำนวนมาก
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ ก็จะพบว่า เมื่อไปซื้อสินค้าที่ร้าน ทางร้านจะคิดค่าถุงพลาสติกใบละ 30 บาท ซื้อบ่อยก็เสียค่าถุงบ่อย และถุงที่ได้มาก็จะเป็นขยะในห้องพัก เฉพาะลำพังคนเดียวก็จะพบว่ามีถุงพลาสติกจำนวนมากและหลายใบ และหากมองรวมกัน ทั้งในชุมชน ในประเทศ ก็จะยิ่งเยอะขึ้นไปเป็นทวีคูณ จึงมีความคิดว่า ถ้ามีถุงหิ้วหรือกระเป๋าที่สามารถหิ้วไปตลาดหรือห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ที่เป็นของส่วนตัว น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และไม่ก่อให้เกิดขยะถุงพลาสติก
" เมื่อกลับถึงประเทศไทย ขณะเดินทางกลับบ้าน พบพนักงานของสินค้าดังยี่ห้อหนึ่ง กำลังเก็บป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ข้างถนน จึงได้จอดรถเข้าไปสอบว่า ป้ายไวนิลที่เก็บไปจะนำไปทิ้งที่ไหน พนักงานบอกว่าจะนำไปทิ้งแต่ยังไม่รู้ว่าจะทิ้งที่ไหน จึงได้ขอป้ายดังกล่าวกลับมาที่บ้าน จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้การตัด และเย็บกระเป๋าด้วยตัวเองทั้งกระเป๋าผ้าและไวนิล และซื้อจักรพร้อมอุปกรณ์การเย็บ มีการเรียนรู้จนชำนาญ จึงตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี และตั้งใจจะทำกระเป๋าจากป้ายไวนิลเพียงอย่างเดียว เพราะไวนิล ทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ร้านค้า หน่วยงานราชการ เอกชน อปท.และห้างสรรพสินค้า ปลดป้ายไวนิลลงมาก็จะกลายเป็นขยะและไร้ประโยชน์ โดยที่ร้านของเก่าก็ไม่รับซื้อ"
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อมีความชำนาญในการตัดเย็บ ก็ได้เย็บกระเป๋าจากไวนิลใช้เองในครอบครัวจากนั้นก็แจกให้ญาติพี่น้องเพื่อนสนิทนำไปใช้ ในขณะเดียวกันก็คิดต่อยอด ที่จะสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และลดปัญหาขยะ โลกร้อน จึงได้ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี ขึ้นมา พร้อมๆกับการขอเข้าพบผู้บริหารห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น เพื่อขอป้ายไวนิลที่ปลดลงจากการโฆษณา ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี โดยทางห้างได้มอบไวนิลให้ทางกลุ่มฟรีๆแล้วยังรับซื้อกระเป๋าไวนิลจากทางกลุ่มอีกใบละ 19 บาท เพื่อนำไปวางขายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งขณะนี้ทางห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น ส่งป้ายไวนิลให้กับกลุ่มและรับกระเป๋าจากทางกลุ่มไปแล้วประมาณ 3 เดือน
" เมื่อได้ป้ายวินิลมาก็จะทำการตัดกระเป๋า ซึ่งเป็นกระเป๋าหูหิ้วแบบง่ายๆ ให้ผู้ที่เป็นเครือข่ายนำกลับไปเย็บที่บ้าน โดยทางกลุ่มจะคิดค่าเย็บกระเป๋าให้ใบละ 5 บาท ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 7 เครือข่ายที่มารับกระเป๋าไปเย็บ เฉลี่ยเครือข่ายละ 200 ใบ ภายใน 1 อาทิตย์ก็แล้วเสร็จ ในขณะเดียวกันก็มีคุณครูจากโรงเรียนที่จังหวัดชลบุรี ได้ประสานมาที่กลุ่มให้ทำการเย็บกระเป๋าไวนิลให้ โดยที่ทางโรงเรียนได้ส่งป้ายโฆษณาของทางโรงเรียนมาให้ ซึ่งเมื่อตัดออกมาเป็นกระเป๋าแล้ว และคัดไวนิลที่ไม่สมบูรณ์ออกจะได้กระเป๋าประมาณ 300 ใบ ซึ่งทางกลุ่มก็จะคิดค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม งเป็นราคาที่โรงเรียนพอใจ"
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในพื้นที่ขอนแก่น หากมีป้ายไวนิลที่ทำกิจกรรม และการประชาสัมพันธ์ ผ่านไปแล้วอย่าทิ้ง เพราะไวนิล มีประโยชน์มากกว่าที่คิดทิ้งก็เป็นขยะ เพิ่มมลพิษ รีไซเคิลก็ไม่ได้ รบกวนให้ประสานมาที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี เลขที่ 227/75ม.6 ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื่องจากสามารถนำมาทำประโยชน์ได้อีก เพราะนอกจากกระเป๋า ทางกลุ่มฯเรากำลังจะผ้ากันเปื้อน ร่ม และเสื้อกันฝน เพื่อลดขยะ ลดโลกร้อน และสร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไปอีกด้วย