ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตรเผยปัจจุบันทุกวันนี้คนพิจิตรเป็นผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์-อัมพาต เป็นคนไข้ติดบ้าน-ติดเตียง มากถึง 2 พันคนเศษ เหตุป่วยจากปัจจัยเสี่ยง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง กินเหล้า สูบบุหรี่ แนะลดเค็ม ลดหวาน เลิกเหล้า-บุหรี่ หันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่ถ้าป่วยรีบมาพบแพทย์ให้ได้ภายใน 3 ชั่วโมง มีสิทธิรอด วันที่ 29 ต.ค. 2562 ที่โรงพยาบาลพิจิตร นายแพทย์สุรชัย แก้วหิรัญ ผอ.รพ.พิจิตร ,พ.ญ.นงลักษณ์ บุตรดี อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ , นพ.ธีรวัฒน์ รักจิตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรม , นพ.พีรุตม์ ศิวเวทพิกุล ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง พร้อมด้วยคณะแพทย์พยาบาล-เจ้าหน้าที่ ของโรงพยาบาลพิจิตร ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม รณรงค์วันอัมพาตโลกปี 2562 วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ประชาชนรับรู้สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง ลดความเสี่ยง การเป็นอัมพาต โดย นายแพทย์สุรชัย แก้วหิรัญ ผอ.รพ.พิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง จนส่งผลให้เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต ว่า ขณะนี้ รพ.พิจิตร มีผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวมากถึง 2 พันคนเศษ ที่อยู่ในการดูแลรักษา โดยพบว่าทั้งเพศหญิง-เพศชาย มีอัตราส่วนการป่วยที่ใกล้เคียงกัน อายุต่ำสุดคือ 36 ปี ก็เป็นผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตันและหลอดเลือดสมองแตก ดังนั้นหากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ คือ ใบหน้าเบี้ยวปากเบี้ยว , แขนขาออ่อนแรงเฉียบพลันมึนงงวิงเวียนทรงตัวไม่ได้ , ลิ้นแข็งพูดลำบาก พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ ถ้าตัวท่านหรือคนใกล้ชิดมีอาการเช่นนี้ขอให้รีบมาพบแพทย์ให้ได้ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อเข้ารับการรักษาให้ถูกวิธี สำหรับสาเหตุก่อนที่จะเกิดอาการดังกล่าว พ.ญ.นงลักษณ์ บุตรดี อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ , นพ.ธีรวัฒน์ รักจิตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรม , นพ.พีรุตม์ ศิวเวทพิกุล ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง อธิบายเพิ่มเติมว่า เกิดจากอาหารการกินและขาดการออกกำลังกาย ซึ่งส่วนใหญ่ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต มักเริ่มจากกินเค็มจัด-หวานจัด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย จากนั้นก็เข้าสู่ภาวะโรคอ้วนเป็นโรคไขมัน ความดันโลหิตสูง และลุกลามจนกลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตันและหลอดเลือดสมองแตก ซึ่งวิธีป้องกันก่อนป่วยก็คือกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าถึงขั้นใบหน้าเบี้ยวปากเบี้ยว , แขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียนศรีษะทรงตัวไม่ได้ , ลิ้นแข็งพูดลำบาก พูดไม่ชัด ถ้าถึงขั้นนี้ขอรีบมาพบแพทย์ให้ได้ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็มีสิทธิหาย ดังนั้นหากเกิดอาการดังกล่าวหรือป่วยฉุกเฉิน สามารถโทร1669 รพ.พิจิตร จะมีรถไปรับผู้ป่วยถึงบ้าน บริการฟรี