เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 มี.ค.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส. ลีลาวดี วัชโรบล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตัวแทนสมาชิกเครือข่ายวัดพระธรรมกาย 7 คน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อขอให้ยกเลิก มาตรา 44 และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ ทหาร ออกจากพื้นที่วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 นางลีลาวดี กล่าวว่า คำสั่ง ม.44 มีเจตนาเพื่อสนับสนุนหมายค้นและนำไปสู่หมายจับพระธัมมชโย แต่หมายค้นได้หมดอายุตั้งแต่วันนี้ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา จึงหมายความว่าความชอบธรรมของมาตรา 44 หมดไปแล้ว ทั้งนี้ กฎหมายเมื่อเขียนขึ้นต้องมีวัตถุประสงค์และมีเจตนารมณ์กำกับ แต่เมื่อเจตนารมณ์นี้ได้หมดไป เหตุใดยังมีกำลังทหารและตำรวจอยู่รอบวัด ถือเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบวัดก็เดือดร้อนไปด้วย ทั้งโดนตัดสัญญาณโทรศัพท์ รวมทั้งเด็กบางคนไม่กล้าเดินทางออกมาเรียนหนังสือ เพราะกลัวจะกลับเข้าที่พักไม่ได้ ตนจึงอยากฝากบอกนายกฯว่า มาตรา 44 ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยุติและยกเลิกโดยเร็ว เมื่อถามว่า การออกมาตรา 44 มีไว้สำหรับควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีอำนาจมากกว่าหมายค้น และที่ผ่านมาการตรวจค้นก็ถูกขัดขวาง น.ส. ลีลาวดี กล่าวพร้อมบีบน้ำตาว่า วัตถุประสงค์ของหมายค้น เพื่อจับกุมพระธัมมชโยเท่านั้น แต่บริเวณตลาดที่อยู่ตรงข้ามวัดเห็นชัดว่าไม่มีพระธัมมชโยอยู่ แต่ทำไมยังมีกำลังทหาร ตำรวจ เข้าไปปิดกั้น ไม่ให้ประชาชนเข้าไปสวดมนต์ ซึ่งเป็นการใช้มาตรา 44 เกินขอบเขต ทำแบบนี้ไม่เหมาะสม ในฐานะคนไทยคนหนึ่งมีความรู้สึกอับอาย จึงมาเพื่อทวงคืนวัดพระธรรมกายให้กับพระพุทธศาสนา อย่าให้พวกเราต้องหมดความอดทน