ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล “พอล ตายแล้ว” คำพูดที่สั่นสะเทือนความรู้สึกแฟนเพลง เดอะ บีเทิ่ลส์ รุนแรงเมื่อห้าสิบปีก่อน และกลายเป็นเรื่องลวงโลกครั้งสำคัญชองประวัติศาสตร์ดนตรีร็อค แอนด์ โรล เพราะทุกวันนี้ พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ ยังอยู่ดีมีสุข ได้รับเกียรติเป็นท่านเซอร์ แล้วยังคงเป็นนักแต่งเพลง/นักดนตรีมืออันดับต้นๆของโลก ปลายปีที่แล้ว เขาเพิ่งปล่อยอัลบั้ม Egypt Station ที่ขึ้นอันดับ 1 ทันทีที่วางจำหน่าย ข่าวลือแพร่สะพัดรวดเร็ว เรื่องเริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1969 เมื่อ รัสส์ กิ๊บบ์ ดีเจ ชาวดีทรอยต์กำลังจัดรายการวิทยุช่อง WKNR แล้วมีโทรศัพท์ลึกลับเข้ามาบอกให้เขาเล่นแผ่น White Album ของ เดอะ บีเทิ่ลส์ สิ “เพลงที่ 9 นะ เพลงที่ 9” แล้วเล่นช่วงอินโทรเพลง “Revolution 9” กลับหลัง พอ กิ๊บบ์ ลองเล่นออกอากาศ เขาก็ได้ยินว่า “Turn me on, dead man.” ตามด้วยปริศนาในตอนท้ายเพลง “Strawberry Fields Forever” ที่ จอห์น เลนนอน พูดว่า “ฉันฝัง พอล แล้ว” เรื่องพวกนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่า เดอะ บีเทิ่ลส์ กำลังปกปิดอะไรบางอย่างน่ะสิ ความลับที่ว่า พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ ตายไปแล้วในอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่ปี 1966 แล้วทางวงก็หาคนหน้าเหมือนมาเป็นตัวแทน ข่าวลือแพร่กระจายยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง หลายคนตามไปค้นหาปริศนาต่อในปกอัลบั้มและเพลงในชุดต่อๆมา อย่างความหมายปก Abbey Road ที่ จอห์น ใส่ชุดขาว หมายถึงนักบวช ส่วนสัปเหร่อเป็น ริงโก สตาร์ร ที่สวมชุดดำ จอร์จ แฮร์ริสัน ในชุดยีนส์เป็นคนขุดหลุม และศพก็คือ พอล ที่เดินเท้าเปล่า แถมยังคีบบุหรี่ที่มือขวา-ทั้งๆที่เขาถนัดซ้าย! แผ่นป้ายทะเบียนของรถโฟล์คสวาเกนคือ “28 IF” ที่บอกเป็นนัยว่า พอล ควรจะมีอายุ 28 หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ (ตอนนั้นเขาอายุ 27) แล้วยังมีแฟนบางคนเชื่อว่า วอลรัส หมายถึงศพในภาษากรีก แต่ความจริงเป็นสแกนดิเนเวีย และท่อนที่ร้องว่า “goo goo goo joob” เป็นคำพูดสุดท้ายของ ฮัมป์ตี ดัมป์ตี พูดก่อนร่วงลงจากกำแพงใน Finnegans Wake ของ เจมส์ จอยซ์ (ซึ่งไม่จริง) ส่วนที่จริงคือตอนท้ายของเพลง “I Am the Walrus” จอห์น เอาเทปที่อัดรายการสดของ บีบีซี มาใช้ปิดเพราะเห็นว่าลงตัวดี ฯลฯ และในขณะที่ข่าวลือพัดโหมกระพืออยู่นั้น พอล อยู่ในฟาร์มที่สกอตแลนด์กับ ลินดา กับ เฮเธอร์ (ลูกติดของ ลินดา) และ แมรี่ ลูกสาววัยหกสัปดาห์ของทั้งคู่ กำลังยุ่งขิงกับการเป็นพ่อคนครั้งแรก ไม่มีเวลาใส่ใจกับข่าวลือใดๆ อย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ โรลลิ่ง สโตน ภายหลัง “ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดกันไป มันน่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดที่เราเคยมี และผมก็ไม่ต้องทำอะไรนอกจากยังไม่ตาย” ส่วน จอห์น เองก็บอกว่า “เป็นข่าวลืองี่เง่าที่สุดที่ผมเคยได้ยิน” ข่าวลือที่ว่า “พอล ตายแล้ว” ยังคงอยู่แม้ว่านิตยสาร ไลฟ์ จะได้ไปนั่งคุยและถ่ายภาพเขาที่ฟาร์ม แล้วนำมาเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นปกฉบับวันที่ 9 กันยายน พาดหัวว่า “พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ ยังอยู่กับเรา” แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อ กลับไปสนใจที่คางกับขากรรไกรของเขาว่าไม่ปกติ อย่างที่ พอล ให้สัมภาษณ์ โมโจ เมื่อปี 2009 “ผมว่าเรื่องที่แย่สุดๆคือการที่คนมองภาพผมแล้วบอกว่า ‘หูของเขาเป็นแบบนี้จริงๆหรือ?’” แม้ว่าในปี 1970 ข่าวลือเรื่องนี้จะซาลงไป แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องไม่จริงนี้ก็ยังได้การนำมาพูดถึงและกล่าวอ้างกันอยู่บ่อยๆ ทั้งๆที่ พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ ยังใช้ชีวิตต่อมาจนอายุ 77 ปีแล้วในวันนี้ ทำงานเพลงออกมาให้ฟังกันสม่ำเสมอ ยังมีแรงแสดงสดบนเวทีอยู่เป็นระยะๆ แล้วยังมีอารมณ์ขันขนาดที่ว่าเคยตั้งชื่ออัลบั้มบันทึกการแสดงสดเมื่อปี 1993 ว่า Paul is Live ก็เคย ข่าวล่าสุด เซอร์พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ กำลังทำงานละครเพลงเรื่องแรกในชีวิตที่มีชื่อว่า It’s A Wonderful Life