งานบุญใหญ่เดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ พระครูวิศิษฏ์พิทยาคม (หลวงพ่อวราห์ ปุญญวโร) เจ้าอาวาสวัดโพธิทอง บางมด จะได้ทำพิธีนาคาสมโภชน์ องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 และทำพิธีไหว้ครูบูชาพระอริยะเจ้า ประจำปี 2562 ในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 จึงขอเรียนเชิญศิษยานุศิษย์ร่วมงานบุญมหาสามัคคีในโอกาสนี้โดยพร้อมเพรียงกัน
องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช นั้น เป็นพญานาค 1 ใน 3 องค์สำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ตามตำนานพระไตรปิฎกซึ่งพญานาคได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ตั้งแต่ก่อนการตรัสรู้
สำหรับพญานาคองค์แรก ได้แก่ พญากาฬนาคราช หรือ พญากาฬภุชคินทร์ นาคราช ซึ่งมีอายุมากและนอนหลับอยู่เป็นนิตย์ เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยข้าวมธุปายาสที่นางสุชาดาถวายแล้ว ได้ถือถาดไปทรงอธิษฐานที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ว่า ถ้าเราจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในวันนี้ ขอให้ถาดลอยทวนกระแสน้ำไป ถ้าไม่ได้เป็นจงลอยไปตามกระแสน้ำ ครั้นอธิษฐานแล้ว ทรงลอยถาดไปในแม่น้ำ
ถาดนั้นลอยตัดสายน้ำออกไปจนถึงกลางแม่น้ำ แล้วลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไปประมาณ 80 ศอกจึงหมุนจมลงไปตามวังวนแห่งหนึ่ง ถาดนั้นได้ตกลงไปกระทบถาดของพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะที่มาตรัสรู้ก่อนหน้านี้
เมื่อถาดของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์กระทบกัน ทำให้พญากาฬนาคราชสะดุ้งตื่นจากหลับ พญากาฬนาคราชคิดว่า เมื่อวานนี้พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วพระองค์หนึ่ง วันนี้ตรัสรู้อีกพระองค์หนึ่ง จึงลุกขึ้นสรรเสริญพระพุทธคุณด้วยคาถาหลายร้อยคาถา ดังภาพวาดประติมากรรมที่ปรากฏอยู่ยังผนังพระอุโบสถวัดโพธิทอง บางมด ในปัจจุบัน
องค์ที่สอง พญามุจลินทร์นาคราช เป็นพญานาคซึ่งปรากฏในพุทธประวัติและปรากฏในพระพุทธรูป ปางนาคปรก โดย พญานาคมุจลินทร์เป็นผู้แผ่พังพานป้องพระสมณโคดมเมื่อเกิดพายุฝนเป็นเวลาเจ็ดวันขณะทรงบำเพ็ญเพียรที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ตำนาน องค์ท้าวพญามุจลินท์นาคราช ครั้นล่วง 7 วันแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า “มุจลินท์” ตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุขอยู่ ณ ที่นั้น
อีก 7 วันในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด 7 วัน พญานาคมีนามว่า “มุจลินทร์นาคราช” ซึ่งพำนักอยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์พฤกษ์ มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาศ พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ 7 รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้งล่วง 7 วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า “ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง”
ซึ่งในปัจจุบัที่ วัดโพธิทอง บางมด นั้นยังมีวิหารประดิษฐานรูปหล่อพญานาคมุจลินทร์นาคราช องค์ใหญ่ ซึ่ง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ทรงเสด็จเป็นประธานทำพิธีหล่อเอาไว้เมื่อปี พ.ศ.2533 ให้ศิษยานุศิษย์ได้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
ส่วนพญานาคองค์ที่สาม ซึ่งมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา นามว่า องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช นั้น ตามตำนานเป็นพญานาคที่มีทิฏฐิมานะ มีฤทธิ์มาก ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมพระสาวก 500 รูปเหาะไปในอากาศด้วยกำลังอภิญญาผ่านเศียรของพญานันโทปนันทนาคราชและเป็นเหตุให้มีฝุ่นตกใส่
ด้วยความโกรธพญานาคองค์นี้จึงแสดงฤทธิ์เดชทำให้พระพุทธองค์มีพุทธบัญชาให้พระมหาโมคคัลลานะไปปราบ ด้วยการแปลงเป็นพญานาคราช อันมีอัตภาพใหญ่โตกว่าพญานันโทปนันทนาคราชถึงสองเท่า ทั้งสองได้แสดงฤทธิ์สู้กัน แต่พญานันโทปนันทนาคราชสู้ไม่ได้ในที่สุดจึงยอมแพ้
พญานันโทปนันทนาคราช ทราบว่า พญานาคแปลงนี้ คือพระอรหันต์สาวกของพระบรมศาสดา ซึ่งมีอานุภาพมากเกินที่ตนจะต้านทานได้ ทำให้พญานันโทปนันทนาคราชสำนึกผิด จากนั้นพระเถระจึงคลายฤทธิ์เนรมิตกลายเป็นพระมหาโมคคัลลานะดังเดิม
ครั้นพญานันโทปนันทนาคราช แปลงกายเป็นมาณพหนุ่มยืนถวายอัญชลีด้วยความเคารพ พระโมคคัลคานะจึงนำพญานาคผู้คลายทิฐิไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ในครั้งนั้นพระพุทธองค์ได้แสดงเทศนาธรรมโปรด จนพญานันโทปนันทนาคราช ถวายตนเป็นพุทธมามกะนับถือพระรัตนตรัยและตั้งอยู่ในธรรม งดการกระทำปาณาติบาต ล่วงซึ่งชีวิตของสัตว์อื่นแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันที่วัดโพธิทอง บางมด ได้มีการหล่อ องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราชองค์ปฐม ขนาดความสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งตามประวัติการค้นคว้า ครั้งนี้น่าจะเป็นการสร้างครั้งแรกนับตั่งแต่ยุคพุทธกาลมากว่า 2,600 ปี และองค์จำลองขนาดความสูงประมาณ 1 ศอก จำนวน 99 องค์ (ผู้มีจิตศรัทธาได้เช่าบูชาหมดแล้ว) ซึ่งในพิธีนาคาสมโภชน์ องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช ที่จะจัดขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เวลา 18.39 น. ทางวัดมีการนิมนต์พระสงฆ์ 108 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน
นอกจากนี้หลังเสร็จสิ้นพิธี หลวงพ่อวราห์ ปุญญวโร เจ้าอาวาส ยังจัดเตรียมเหรียญองค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช ซึ่งจัดทำเป็นที่ระลึกมอบให้แก่ศิษยานุศิษย์ทุกคน ส่วนวันรุ่งขึ้นวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน (วันลอยกระทง) ที่ทางวัดจะทำพิธีไหว้ครูบูชาพระอริยะเจ้า ประจำปี 2562 พิธีไหว้ครูนี้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทราบดีผู้มีจิตศรัทธาพญาครุฑและพญานาคไม่ควรพลาด
ท้ายที่สุด หลวงพ่อวราห์ ฝากบอกทุกท่านที่เตรียมตัวเดินทางมาร่วมพิธีและรับวัตถุมงคลดีๆ จากทางวัดไปบูชา ว่า “ศีลของเหล่าเทวดา พญานาค พญาครุฑ ก็คือศีลตัวเดียวกัน คือ หิริโอตตัปปะ ความละอายความเกรงกลัวต่อบาป
ส่วนพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และของมงคลนั้นจะเป็นเพียงเศษหิน เศษโลหะ หรือเครื่องประดับธรรมดา หากผู้อาราธนาติดกายไร้ศีล 5 ขาดความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา และความกตัญญูต่อประเทศชาติ”
สำหรับผู้สนใจจะเข้าร่วมพิธีนาคาสมโภชน์องค์ท้าวเทพพญาอานันโทปนันทนาคราช และ พิธีไหว้ครูบูชาพระอริยะเจ้าประจำปี 2562 ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก “วัดโพธิทอง บางมด กทม.” หรือโทรศัพท์สอบถามที่เบอร์ 02-4283939 ได้ทุกวันในเวลาราชการ ทั้งนี้โหลดบทสวดมนต์วันนาคาสมโภชน์ http://www.mediafire.com/file/zh17pp5ux1wauly