บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด คว้ารางวัล “บริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ประกอบธุรกิจในนานาประเทศที่ดีที่สุด ประจำปี 2559" ติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทเมล็ดพันธุ์ผักที่ใหญ่ที่สุดในโลก มร. Michel Devarreware รองประธานบริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด และนายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด เป็นผู้แทนรับรางวัล “บริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ประกอบธุรกิจในนานาประเทศที่ดีที่สุด ประจำปี 2559 (The Best Multinational Company of 2016) ซึ่งหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย (NTCC) จัดขึ้น โดยมี ฯพณฯ Paul Menkveld เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานมอบ ณ โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ มร. Michel Devarreware รองประธานบริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด กล่าวว่า บริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ตรา ศรแดง เป็น 1 ใน 10 ของบริษัทเมล็ดพันธุ์ผักที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยริเริ่มนำความรู้และเทคโนโลยีของชาวดัชท์ในอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์มาช่วยให้เกษตรกรรายย่อยในประเทศเขตร้อนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักและเพาะพันธุ์พืชเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้สถานการณ์ด้านอาหารดีขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันมีสถาบันวิจัยและพัฒนา 15 แห่ง ใน 7 ประเทศ บริษัทฯ ส่งออกเมล็ดพันธุ์ไปกว่า 60 ประเทศในพื้นที่เขตร้อน และให้บริการแก่เกษตรกรทั่วโลกกว่า 18 ล้านคน ด้าน นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด กล่าวว่า รางวัลดังกล่าว บริษัทฯ ได้รับคะแนนสูงตามเกณฑ์การคัดเลือก 5 ด้าน ของหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย ได้แก่ 1.ด้านนวัตกรรม บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดรวมทั้งหมด 53 รายการ บริษัทฯ ตื่นตัวในเรื่องของการเพาะพันธุ์พืชและการวิจัย โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนารวม 15 แห่ง ใน 7 ประเทศ และ 11-15 % ของผลประกอบการบริษัทได้นำไปลงทุนในการทำวิจัย ซึ่งจุดนี้ทำให้บริษัทฯ เป็น 1 ใน ผู้ลงทุนภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดทางด้านการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพในประเทศไทย 2.ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (คน, ผลกำไร,โลก) การจัดหาอาหารให้เพียงพอกับจำนวนประชากรบนโลกที่เพิ่มจำนวนขึ้นนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 21 ธุรกิจของบริษัทฯ สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเกษตรกรรายย่อยในประเทศเขตร้อน และสนับสนุนให้มีสุขภาพและถานะทางสังคมที่ดีขึ้น หน้าที่ของบริษัทฯ คือช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรในแถบชนบทมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจากการที่เรามีผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลายพันธุ์ ในปี 2558 บริษัทฯ อยู่ในอันดับ 1 หมวดการเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ หรือ Access to Seeds Index 3.ด้านการให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร ในปี 2556 บริษัทฯ ได้มีการก่อตั้ง “สถาบันอีสต์ เวสต์ ซีด” ภายในองค์กร เพื่อจัดการเกี่ยวกับความรู้ของผู้เชี่ยวชาญทางด้านเมล็ดพันธุ์ และให้โอกาสกับผู้ที่มีความสามารถได้เรียนรู้จากการทำงาน โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Wageningen และ Breedwise BV-Netherlands ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพ และมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านเมล็ดพันธุ์ ต้นปี 2559 บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย California-Davis เป็นครั้งแรก เปิดคอร์ส “ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ 101” ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจาก 24 ประเทศที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ระดับโลก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสต์ เวสต์ ซีด จำกัด กล่าวอีกว่า 4.ด้านการส่งเสริมความสันพันธ์ไทย-เนเธอร์แลนด์ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือทางด้านการวิจัยว่า เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศไทย บริษัทฯ ได้พัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมด้านการเพาะพันธุ์พืชและเทคโนโลยีด้านเมล็ดพันธุ์กับมหาวิทยาลัย Wageningen และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้ ยังได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้กับศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (CAB) เพื่อกระตุ้นให้คนไทยพัฒนาความสามารถด้านการปลูกพืชที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ (Novel Field) และ5.ด้านความสำเร็จทางธุรกิจในภาพรวม ตั้งแต่ปี 2525 บริษัทฯ มีการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ผักในท้องถิ่นที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศในเขตร้อน ปัจจุบันมีเมล็ดพันธุ์ผักมากกว่า 800 ชนิด จากพืชผล 37 ชนิด ผลิตภัณฑ์ผักเพิ่มจำนวนขึ้นมากมายในประเทศที่บริษัทฯ เปิดทำการ และมีความเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจทางด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการปลูกผักในประเทศกำลังพัฒนาที่อยู่ในเขตร้อนมากขึ้น