จังหวัดนราธิวาส เดินหน้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการเป็น Smart SME OTOP และก้าวสู่ 4.0 มุ่งเน้นการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์สู่สินค้าเชิงนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าไปสู่ภาคบริการ วันนี้ (22 ต.ค. 62) นายคณบดี สัมพัชนี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส เปิดการสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานโครงการและพิธีมอบเกียรติบัตรผู้เข้ารับการอบรมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการเป็น Smart SME OTOP และก้าวสู่ 4.0 ที่โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ และผู้สนใจ รวมถึงเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อความพร้อมในการเป็น Smart SME OTOP และก้าวสู่ 4.0 อย่างยั่งยืน รักษาราชการแทนอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดโครงการฯ ครั้งนี้เป็นไปตามกระแสโลก ทุกภาคส่วนต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ มุ่งสู่นวัตกรรมซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้และภูมิปัญญา และมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเทศไทย 4.0 ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมีฐานคิดหลักคือเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม รวมถึงเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่การเน้นภาคบริการมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้พัฒนาศักยภาพด้านการดำเนินธุรกิจในระบบตลาดดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในเชิงของการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพการนำทรัพยากรในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งถึงมือผู้บริโภค ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชัย รุ่งเรืองอนันต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ (22 ต.ค. 62) ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงาน และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม หลักสูตรการสร้างผู้ประกอบการ Smart SME จำนวน 60 ชั่วโมง และหลักสูตรการตลาดดิจิทัล จำนวน 60 ชั่วโมง โดยที่ปรึกษาได้ดำเนินการประเมินผลเพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อยอดยกระดับ SME ก้าวสู่ 4.0 ได้แก่ การฝึกอบรมเพิ่มเติมด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรม การลงนาม MOU 3 ฝ่าย ระหว่างผู้ประกอบการฯ จำนวน 15 วิสาหกิจ หน่วยงานที่ปรึกษา และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ยังได้ให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการฯ ทั้ง 15 วิสาหกิจ อาทิ การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงติดตามผลการดำเนินงาน จนสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ