ร้านค้าปลีกและส่งผลิตภัณฑ์การเกษตรบุรีรัมย์ ยอมรับยอดขายลดลงกว่าร้อยละ 30 หลังมีกระแสยกเลิกใช้ 3 สารเคมี เนื่องร้านค้าปลีกไม่กล้าซื้อไปตุนไว้ขายส่วนเกษตรกรไม่กล้าซื้อไปใช้ ยังรอความชัดเจนผลมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เผยในฐานะคนขายไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่เห็นใจเกษตรกรที่ยังจำเป็นต้องใช้
(22 ต.ค.62) บรรยากาศร้านขายปลีกและส่งผลิตภัณฑ์การเกษตร ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ค่อนข้างเงียบเหงา โดยผู้ประกอบการยอมรับว่าหลังมีกระแสที่จะยกเลิกใช้ 3 สารเคมี คือ พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต ก็ทำให้ยอดขายลดลงกว่าร้อยละ 30 เนื่องจากร้านค้าปลีกไม่กล้าซื้อไปไว้จำหน่าย ส่วนเกษตรกรที่เคยมาซื้อไปใช้กำจัดวัชพืชก็ชะลอการซื้อ เนื่องจากต้องรอความชัดเจนจากผลผลมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย แต่หากถามในฐานะผู้จำหน่าย ถึงแม้มติจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่ส่งผลกระทบมากนักเนื่องจากไม่ได้สั่งสินค้ามาสต๊อกไว้เยอะอยู่แล้ว ก็จะสั่งมาไว้แค่พอขายเท่านั้น แต่จะกระทบโดยตรงกับเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ใช้มากกว่า
ซึ่งจากการสอบถามเกษตรกรที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้านก็ยืนยันว่ายังจำเป็นต้องใช้สารเคมีดังกล่าวในการกำจัดวัชพืชอยู่ แต่หากให้ยกเลิกใช้ก็ยังไม่รู้จะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรไปทดแทน หากจะต้องใช้แรงงานคนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก
นางรัชนี เสรีสมแสน ผู้ประกอบการ ร้านบุรีรัมย์การเกษตร บอกว่า ถึงแม้จะมีการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะในร้านก็มีผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นจำหน่ายอยู่แล้ว แต่เห็นใจเกษตรกรที่ยังจำเป็นต้องใช้สารเคมีดังกล่าวอยู่ และขณะนี้ภาครัฐเองก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เกษตรกรจะใช้ทดแทนสารเคมีดังกล่าวได้ และหากมีจะราคาถูกหรือแพงกว่าเดิมหรือไม่ ก็อยากให้รัฐหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
