ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เรียกประชุมเร่งรัดคดียิงถล่มผู้ช่วย สส.พัทลุง ตั้ง 4 ประเด็น ทั้งการเมือง คดีเก่าที่ผู้ตายอาจเกี่ยวข้อง และการประมูลงาน แต่อีกประเด็นยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนผลการตรวจปลอกกระสุนพบไม่เชื่อมโยงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จากกรณีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าและเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายสุนทร เรืองแก้ว อายุ 50 ปี ชาว ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง และเป็นผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 2 จ.พัทลุง เสียชีวิตคารถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ เหตุเกิดบนถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ชะรัด พื้นที่ ม.6 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา และทางตำรวจพัทลุง รวมทั้งตำรวจภูธร ภาค 9 กำลังเร่งสืบสวนสวนสอบสวน เพื่อสาวไปถึงตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ต.ค. 62 ที่ห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทาง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจท้องที่เกิดเกิดเหตุ ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และชุดสืบสวน ตำรวจภูธร ภาค 9 เพื่อเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งคืบหน้าไปพอสมควร โดยเฉพาะในการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลของการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนสงครามที่พบในที่เกิดนั้น ได้ส่งไปตรวจสอบที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ไม่ตรงกับอาวุธที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่ใดมาก่อน และหลังจากนี้จะส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานของตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 ว่า ตรงกับคดีใดบ้าง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องเวลาในการตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง และจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการสาวไปถึงตัวหรือกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เผยด้วยว่า ในส่วนของเบาะแสของรถเก๋งต้องสงสัยที่คาดว่า จะเป็นรถของคนร้ายนั้น ล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องช่วยกันลงพื้นที่ตามหาทั่วทุกตรอกซอกซอยในบริเวณที่เกิดเหตุ และใกล้เคียง รวมทั้งในจุดที่คาดว่า รถคันดังกล่าวอาจจะขับผ่าน หรือถูกใช้เป็นที่ซ่อน โดยยืนยันว่า รถไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ยังหาไม่เท่านั้น สำหรับการตั้งประเด็นในการสังหารโหดครั้งนี้ทางตำรวจตั้งเอาไว้ทั้งหมด 4 ประเด็น แต่สามารถเปิดเผยได้แค่ 3 ประเด็น เท่านั้น คือ เรื่องการเมือง เรื่องคดีเก่าเมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนถูกยิง และมีการตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และเรื่องของการประมูลงานที่ผู้ตายทำอยู่ด้วย ส่วนประเด็นสุดท้ายทางตำรวจยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่า น่าไม่ใช่เรื่องของยาเสพติดอย่างแน่นอน ซึ่งประเด็นทั้งหมดทางตำรวจยังคงให้น้ำหนักความสำคัญเท่ากัน และรอการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน และแน่นหนามากกว่านี้ เพื่อที่จะชี้ชัดไปในรายละเอียด และตัดประเด็นที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องทิ้งไป นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา