หอการค้าโคราช จัดเวทีเสวนา “ลมหายใจรายย่อยโคราช” ร้านท้องถิ่นอยู่ลำบาก รัฐเอื้อแต่เจ้าสัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม ที่ห้องประชุม หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์ชัย จามรสุริยา รองประธานหอการค้า ฯ จัดกิจกรรม “คนหัวการค้า ครั้งที่ 1” โดยมีนายจิระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชุมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร นายธฤษณุ ขจรโกวิทย์ ประธานบริหารเครือข่ายธุรกิจบิสคลับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายสุเทพ เสมามอญ ผู้แทนกลุ่มเปิดท้ายขายของตามตลาดร่วมเวทีเสวนา “ลมหายใจรายย่อยโคราช” ซึ่งมีผู้ประกอบการและผู้สนใจร่วมรับฟังและเสนอข้อคิดเห็นรวมทั้งขอคำชี้แนะแนวทางการทำตลาดท้องถิ่น ส่วนใหญ่โอดครวญเจอผลกระทบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ทุนส่วนกลางเข้ามายึดทำเลการค้า กำหนดส่วนแบ่งการตลาด มาตรการชิม ช็อป ใช้ ผลประโยชน์ตกอยู่กับเจ้าสัวชัดเจน คนท้องถิ่นได้เพียงแทะเศษกระดูก
นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า บทสรุปจากการเปิดรับฟังเสียงสะท้อนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้กลุ่มร้านอาหาร ที่เกิดขึ้นใหม่หรือเจ้าใหม่ส่วนใหญ่ลงทุนด้วยเงินกู้และมีทุนสำรอง ฝีมือรสชาติเป็นจุดแข็งและจุดขาย หากร้านไหนไม่มีจะอยู่ยาก แนวร้านอาหารใครไปต้องถ่ายเซลฟี่รูป กลุ่ม SME ภาพรวมยอดตก 30-60% ใครทุนมากก็พออยู่ได้ แต่ทุนน้อยอยู่ลำบาก การค้าขายต้องเป็นทีม ประเภทศิลปินเดียวไปไม่รอด กลุ่ม BIZ คลับ ยืนยันคนโคราชต้องสู้ที่โคราชและต้องปรับตัว การทำธุรกิจวันนี้ง่ายกว่าในอดีตถ้าเราหาช่องทางเจอไม่หลงทาง สินค้าต้องมีนวัตกรรม
"สำคัญที่สุดคนโคราชกว่า 3 ล้านคน ต้องอุดหนุนช่วยเหลือกัน เชิดชูกัน องค์กรรัฐและเอกชนเช่นหอการค้า สภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏและมทร.อีสาน ต้องผนึกกำลังร่วมกันและมีความจริงใจรับรองเราไม่แพ้ใคร และกลุ่มเปิดท้ายขายของตามตลาด ขณะนี้คนขายตามร้านหันมาขายเปิดท้ายมากขึ้น แต่ยอดขายตกมากกว่าครึ่งแต่ต้องทนขายกันต่อไปเพราะไม่มีอาชีพอื่น ใครมีค่าใช้จ่ายมาก มีภาระหนี้สินก็ลำบาก ภัยคุกคามที่สำคัญคือปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ อาหารและยา (อย.) มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ฯลฯ ถ้าไม่มีก็ถูกจับ นี่คือความยากลำบากของคนค้าขายตามตลาดนัด บ่นท้อมากแต่ไม่มีทางเลือกต้องสู้เพื่อความอยู่รอดและกลุ่มพ่อค้าตามอำเภอต่างๆ ยอดขายตก 60-70% ร้านสะดวกซื้อรุกคืบทุกอำเภอ ร้านท้องถิ่นอยู่ยาก สายป่านก็สั้น สินค้าก็จำกัดเพราะทุนน้อย ทุนใหญ่ครองตลาดเกือบหมดแล้ว ร้านค้าท้องถิ่นกำลังจะหมดลมหายใจ" นายศักดิ์ชัย กล่าว
นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า บทสรุปจากการเปิดรับฟังเสียงสะท้อนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้กลุ่มร้านอาหาร ที่เกิดขึ้นใหม่หรือเจ้าใหม่ส่วนใหญ่ลงทุนด้วยเงินกู้และมีทุนสำรอง ฝีมือรสชาติเป็นจุดแข็งและจุดขาย หากร้านไหนไม่มีจะอยู่ยาก แนวร้านอาหารใครไปต้องถ่ายเซลฟี่รูป กลุ่ม SME ภาพรวมยอดตก 30-60% ใครทุนมากก็พออยู่ได้ แต่ทุนน้อยอยู่ลำบาก การค้าขายต้องเป็นทีม ประเภทศิลปินเดียวไปไม่รอด กลุ่ม BIZ คลับ ยืนยันคนโคราชต้องสู้ที่โคราชและต้องปรับตัว การทำธุรกิจวันนี้ง่ายกว่าในอดีตถ้าเราหาช่องทางเจอไม่หลงทาง สินค้าต้องมีนวัตกรรม
"สำคัญที่สุดคนโคราชกว่า 3 ล้านคน ต้องอุดหนุนช่วยเหลือกัน เชิดชูกัน องค์กรรัฐและเอกชนเช่นหอการค้า สภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏและมทร.อีสาน ต้องผนึกกำลังร่วมกันและมีความจริงใจรับรองเราไม่แพ้ใคร และกลุ่มเปิดท้ายขายของตามตลาด ขณะนี้คนขายตามร้านหันมาขายเปิดท้ายมากขึ้น แต่ยอดขายตกมากกว่าครึ่งแต่ต้องทนขายกันต่อไปเพราะไม่มีอาชีพอื่น ใครมีค่าใช้จ่ายมาก มีภาระหนี้สินก็ลำบาก ภัยคุกคามที่สำคัญคือปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ อาหารและยา (อย.) มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ฯลฯ ถ้าไม่มีก็ถูกจับ นี่คือความยากลำบากของคนค้าขายตามตลาดนัด บ่นท้อมากแต่ไม่มีทางเลือกต้องสู้เพื่อความอยู่รอดและกลุ่มพ่อค้าตามอำเภอต่างๆ ยอดขายตก 60-70% ร้านสะดวกซื้อรุกคืบทุกอำเภอ ร้านท้องถิ่นอยู่ยาก สายป่านก็สั้น สินค้าก็จำกัดเพราะทุนน้อย ทุนใหญ่ครองตลาดเกือบหมดแล้ว ร้านค้าท้องถิ่นกำลังจะหมดลมหายใจ" นายศักดิ์ชัย กล่าว