การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์หน้า (วันที่ 21 – 25 ต.ค. 2562) บรรยากาศยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาการซื้อขายอยู่ในแดนลบสลับกันแดนบวก ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นฯในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นในสัปดาห์หน้านักลงทุนยังต้องติดตามแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายนอกในกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะดูดี แต่ตลาดฯก็ยังไม่ตอบรับ อาจเป็นเพราะต้องการรอดูความชัดเจนในการนำเรื่องเข้าสภาอังกฤษในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก่อน และยังต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ด้วย นอกจากนี้ ตลาดฯดูเหมือนยังไม่ไว้วางใจการลงทุน เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโลกไม่สดใส ทำให้ราคาน้ำมันก็ปรับขึ้นได้ยาก ส่วนแรงสนับสนุนในประเทศ แม้ผลโหวตในเรื่องงบประมาณปี 63 จะผ่านก็ตาม ก็ยังต้องติดตามดูว่าจะดันให้บรรยากาศการซื้อ-ขายกลับมาคึกคักได้หรือไม่ น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยใหม่ๆ ในการสนับสนุนตลาดฯยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจ โดยยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 ด้วย ซึ่งรอดูงบฯของกลุ่มแบงก์ก่อน ต่อไปก็กลุ่ม Real Sector โดยจากการ Preview งบฯกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี ที่ออกมาทำให้คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 ของทั้งสองกลุ่มนี้ไม่น่าจะดี เพราะสเปรดปิโตรเคมีแคบลง และยังมี Stock loss ด้วย แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลการโหวตเรื่องงบประมาณ ปี 63 ซึ่งก็คาดว่าจะผ่านไปได้ แต่ไทยก็ยังต้องเผชิญการเมืองกดดัน ส่วนงบฯไตรมาส 3/62 ของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมก็คาดว่าจะติดลบเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" เฟส2 ก็อาจจะมาช่วยประคองเศรษฐกิจได้บ้าง ทั้งนี้พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,640-1,650 จุด