พ่อพริตตี้สาว ชาวบุรีรัมย์ เผยยังไม่ทราบอดีตลูกเขยจอมลวงโลกถูกจับ เพราะไม่ได้ติดตามข่าว ส่วนจะแจ้งความเอาผิดอดีตลูกเขยฐานหลอกแต่งงานจนเป็นหนี้ 3.5 หรือไม่ ให้ลูกสาวเป็นคนตัดสินใจเอง ตนไม่ขอออกความเห็น แต่หัวอกคนเป็นพ่อแม่สงสารลูกสาวที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ วันนี้ (18 ต.ค.62) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ดา (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พริตตี้สาวชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าถูกนายท็อป อ้างว่าเป็นเสี่ยหมื่นล้าน หลอกให้แต่งงาน จดทะเบียนสมรส โดยมีการจัดงานแต่งใหญ่โตที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ มีการจ้างออร์แกนไนซ์ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดงานรวมกว่า 3.5 ล้านบาท จากนั้นเบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าจัดงานทำให้ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ จนกลายเป็นกระแสดราม่า มีผู้สนใจติดตามเรื่องราวดังกล่าวจำนวนมาก กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้จับกุมนายท็อป หรือเสี่ยท็อปจอมลวงโลก ตามหมายศาลแขวงพระนครเหนือ ในฐานความผิดเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.เช็ค คดีตั้งแต่ปี 2557 ขณะบินกลับจากฮ่องกง คาสนามบินดอนเมือง ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูบรรยากาศที่บ้านของครอบครัวพริตตี้สาวที่ ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจากการสอบถามนายสอย (ขอสงวนนามสกุล) พ่อของพริตตี้สาวผู้เสียหาย ก็ระบุว่า ยังไม่ทราบว่า เสี่ยท็อป อดีตลูกเขยถูกจับกุมเพราะไม่ได้ติดตามข่าวเลย ต้องประกอบอาชีพทำมาหากิน และเมื่อถามว่าพ่ออยากจะเดินทางไปดูหน้าอดีตลูกเขยหรือไม่ พ่อตอบว่าหากลูกสาวอยากให้ไปก็พร้อมจะไป และเมื่อถามว่าจะแจ้งความเอาผิดอดีตลูกเขยฐานหลอกลูกสาวแต่งงานจนเป็นหนี้กว่า 3.5 ล้านหรือไม่ พ่อก็บอกว่าไม่ขอออกความเห็นปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของลูกสาวเอง ถึงแม้ก่อนหน้านี้ตนจะให้สัมภาษณ์ว่าหากอดีตลูกเขยมาเคลียร์หนี้สินค่างานแต่ง 3.5 ล้านบาท แล้วจะไม่เอาเรื่องนั้น มาถึงตอนนี้ไม่สามารถตัดสินใจแทนลูกได้ ส่วนสาเหตุที่หลังจากเกิดเรื่องจนถึงขณะนี้ลูกสาวยังไม่แจ้งความนั้น ตนเองก็เชื่อว่าลูกสาวน่าจะมีเหตุผลของเขา ตนก็เคารพการตัดสินใจของลูก แต่หากถามความรู้สึกหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เป็นห่วงและสงสารลูกสาวมาก และอยากให้อดีตลูกเขยมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่แม่ของพริตตี้สาว ก็ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ บอกแค่ว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ก่อนจะปั่นจักรยานออกไปร่วมงานบุญกฐินที่วัดในหมู่บ้าน