พบกระดูกมนุษย์ หม้อและขวานหินขัด อายุกว่า 3 พันปีภายในเขาถ้ำแรดห้วยยอดตรัง นักโบราณคดี “ชี้” เป็นกระดูกมนุษย์ยุค “หินใหม่” ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมฝังศพ ขณะที่ชุมชนเตรียมผลักดันเป็นแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุ วันที่ 17 ต.ค.62 ภายในบริเวณเขาถ้ำแรด หมู่ 1 บ้านในเขา ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายอภิรัฐ เจ๊ะเหล่า นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักงานศิลปากรที่ 11 สงขลา พร้อมเจ้าที่รวม 4 คนนางสาวมณฑา ทองขาว นายก อบต.ปากแจ่ม นายบัณฑิต สงเพชร กำนันตำบลปากแจ่ม นายสมคิด นาเลื่อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านในเขา พร้อมชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100คน เดินทางมาสำรวจ ตรวจสอบ กระดูกมนุษย์ที่ชาวบ้านพบในถ้ำ ที่คาดว่าจะเป็นกระดูกมนุษย์ที่มีอายุหลายพันปี พร้อมทั้งยังพบเครื่องปั้นดินเผาเป็นหม้อและขวานหินขัดอีกด้วย โดยที่บริเวณที่พบกระดูก หม้อ และขวานหินขัด อยู่ภายในชะง่อนเผิงผามีลักษณะเป็นวงรี สูงจากพื้นถ้ำประมาณ 6 เมตร บริเวณปากถ้ำกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 2 เมตร ภายในเป็นโพรงกว้างลึกประมาณ 4 เมตร อาศัยบันไดวางและปืนเข้าไปในเป็นถ้ำไม่สามารถยืนได้ ภายในพบ กระดูกมนุษย์วางกระจัดกระจาย ใกล้ๆมีเครื่องปั้นหม้อโบราณ เบื้องต้น นายอภิรัฐ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสันนิษฐานว่าอยู่ในยุคหินใหม่ มีอายุประมาณ 3,000-4,000 ปี นายเจริญ เอียดสี อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 3 บ้านคลองคุ้ย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นคนพบกระดูก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ตนได้เดินทามยังถ้ำเขาแรด เพื่อตกแต่งเป็นสถานที่ทำบุญ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านใช้พื้นที่ดังกล่าวมาก่อนแล้ว และตรงจุดที่พบกระดูกนั้นตนได้นำต้นว่านหางช้างขึ้นไปปลูกตรงบริเวณชะง้อนเพิงผา ปรากฎว่าภายในมีโพรงถ้ำจึงใช้ไฟส่องจากโทรศัพท์มือถือจึงเห็นกระดูก และหม้อดิน จึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านดำเนินการและเจ้าหน้าที่สำนักงานศิลปากรที่ 11สงขลา ลงมาพิสูจน์พบว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ที่มีอายุกว่า 3พันปี ตนรู้สึกตื่นเต้นมาก ขณะที่นายสมคิด กล่าวว่า หมู่บ้านในขา ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทางกรมป่าไม้อนุมัติให้เป็นป่าชุมชน โดยทางชุมชนได้มีการจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกรียติฯดูแลศึกษาเรื่องธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ กว่า372ไร่ โดยที่ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกป่าชุมชนอยากได้ที่พักผ่อนหย่อนใจจึงมีการจัดทำโครงการคืนธรรมชาติให้ผืนป่าด้วยการนำต้นมามาปลูกเพิ่มเติม ล่าสุดชาวบ้านได้มีการนำเอาว่านหางเช้าไปปลูกบริเวณชะง่อนเพิงผา บังเอิญเมื่อเข้าไปปรากฏว่ามีถ้ำอยู่ด้านใน และได้ใช้ไฟส่องดูปรากฎว่าเจอโครงกระดูกและมาแจ้งตนให้ขึ้นมาดู “ตนจึงประสานไปยังสำนักงานศิลปากรที่ 11 สงขลาลงมาสำรวจ พร้อมทั้งแจ้งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อำเภอ ตำรวจลงมาดูและเป็นสักขีพยาน จากการตรวจสอบพบว่าภายในถ้ำมีโครงกระดูก หม้อ ขวาน และก้อนหินคล้ายลูกปัดซึ่งเจ้าหน้าที่ศิลปากรได้เก็บและนำไปศึกษาต่อไป โดยทางสำนักงานศิลปากรที่ 11 สงขลา จะได้ศึกษาว่าโครงกระดูกที่พบอยู่ในสมัยไหนย้อนหลังไปกี่พันปี ในส่วนของพื้นที่จะมีการจัดเวรยาเฝ้าระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปทำลาย อยากให้คงอยู่ในสภาพเดิม เพื่อประกาศเป็นแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุต่อไป” นายสมคิด กล่าว ด้านนายอภิรัฐ กล่าวว่า ทางสำนักงานศิลปากรที่ 11 สงขลา มีโครงการมาสำรวจในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยทางอาสาสมัครป่าชุมชนเขาถ้ำแรดประสานงานมา เบื้องต้นจากการดูภาพถ่ายเห็นเป็นเครื่องปั้นดินเผาสีดำ จากนั้นลงมาพื้นที่สำรวจพบว่านอกจากเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ยังพบกระดูก ขวานหินขัด และหินต่างพื้นที่ จากการตรวจสอบมั่นใจว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ เจอทั้งกระดูกนิ้ว ท่อนแขน ท่อนขา ซึ่งยังค่อนข้างสมบูรณ์ ภายในเป็นถ้ำขนาดเล็กไม่สามารถเดินได้ การที่พบกระดูกในถ้ำขนาดเล็กสันนิษฐานได้ว่าเป็นถ้ำที่ใช้ในจัดทำพิธีกรรมฝังศพ ไม่ใช่ถ้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยที่จะต้องมีขนาดใหญ่ แต่เป็นถ้ำที่ใช้ในการฝังศพ ซึ่งของที่พบทั้งหม้อและขวานหินขัดเป็นสิ่งที่อุทิศให้กับผู้ตาย “ลักษณะกระดูกที่พบมีขนาดใหญ่คิดว่าเป็นกระดูกของผู้ชาย ลักษณะกระดูกไม่ได้วางนอนตามแนวแต่กระจัดกระจายโดยสภาพยังไม่ถูกรบกวนมาก่อน ลักษณะกระดูกที่พบไม่ได้มีการวางยาวทั้งพวง สันนิษฐานว่าเป็นการฝังศพในสมัยโบราณโดยการฝังด้านล่างก่อน เมื่อเน่าเปื่อยแล้วค่อนกระดูกมาเก็บไว้ถ้ำ ซึ่งอายุจากการดูจากขวานหินขัดและเศษวัสดุดินเผา เป็นยุคสมัยหินใหม่ อายุ 3-4 พันปีมาแล้ว ต่อไปจะเก็บตัวอย่างกระดูกกับเศษเครื่องปั้นดินเผา และขวานหินขัดไปวิเคราะห์เพิ่มเติมจากนั้นจะรายงานมายังชุมชนว่าจะมีแผนอนุรักษ์พื้นที่นี่ต่อไปอย่างไร” นายอภิรัฐ กล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า บริเวณเขาถ้ำแรด หมู่ 1 บ้านในเขา ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้มีนายทุนดำเนินการของอนุญาตสัมปทานระเบิดหิน แต่ทางผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และชาวบ้านไม่เห็นด้วย มีการคัดค้านมาอย่างต่อเนิ่อง แม้ว่าทางราชการได้ประกาศเป็นพื้นที่แหล่งหินแล้วก็ตาม แต่ชาวบ้านยังคงปักหลักคัดค้านไม่ให้มีการระเบิดหินเขาถ้ำแรด เนื่องจากเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ หากมีการให้สัมปทานระเบิดหินจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอย่างหนัก