เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ จังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดยนางสาวอรวรรณ พิมพ์นาค ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือกรณีรัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากการซื้อขายยาเส้นที่สูงขึ้นกว่า 2,000% โดยมีนายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ เลขานุการ พร้อมด้วยนายอนุชา น้อยวงศ์ กรรมาธิการ นายคำพอง เทพาคำ โฆษกกรรมาธิการ และนางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้แทนรับมอบ นางสาวอรวรรณ พิมพ์นาค กล่าวว่า การขึ้นภาษียาเส้น 2,000% ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบเป็นอย่างมาก ขณะนี้ผ่านมา 6 เดือน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่อย่างใด และมีการบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการขึ้นภาษีในแต่ละครั้งของผลิตภัณฑ์ทแต่ละชนิด ไม่เคยขึ้นถึง 2,000% จึงอยากถามว่า รัฐบาลทำไมขึ้นภาษียาเส้นสูงขนาดนี้ ถ้าเกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ รัฐบาลจะรับซื้อ หรือรับผิดชอบดูแล ช่วยเหลืออย่างไร นายอนุชา น้อยวงศ์ กรรมาธิการเกษตรฯ กล่าวว่า อาชีพปลูกยาสูบ ตนเห็นตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันก็ยังปลูกอยู่ แสดงว่าเป็นอาชีพที่อยู่ได้ ดำเนินกิจการต่อไปได้ ดังนั้น สิ่งที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน พร้อมจะเป็นตัวแทนเรียกร้องให้รัฐบาล หยุดการเรียกภาษี และให้กลับไปที่เดิม ในฐานะที่เป็นกรรมาธิการเกษตรฯ ตนมีสินค้าชนิดอื่นๆ ที่นำเข้ามาในประเทศไทยและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยจะขอเสนอให้รัฐบาลเก็บภาษีสินค้าเหล่านั้นแทน พร้อมกันนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในการประชุมคณะกรรมาธิการเกษตรฯ ครั้งหน้า ด้าน นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ปัญหาภาษีที่ขึ้น 2,000% สร้างความเดือดร้อนไปทั้งระบบ ซึ่งพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้เดินทางไปทุกช่องทางเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากปัญหาดังกล่าว วันนี้ก็เป็นช่องทางหนึ่ง ที่ทางคณะกรรมาธิการเกษตรฯ รับราวร้องทุกข์ดังกล่าว เพราะยาสูบ ถือว่าเป็นพืชสัญลักษณ์หลักของจังหวัดเพชรบูรณ์ คงฝากความหวังไว้กับคณะกรรมาธิการเกษตรฯ ที่จะช่วยเยียวยา และบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวเพชรบูรณ์