วันที่ 16 ต.ค. ที่รัฐสภา เกียกกายนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค.นี้ ว่า จากการหารือกันของคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ข้อสรุปว่า จะได้เวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 18 ชม. ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่รับได้ โดยรัฐบาลขอว่าการแถลงหลักการและเหตุผล ของนายกรัฐมนตรี จะไม่นับเวลารวมอยู่ใน 18 ชั่วโมง ส่วนการเตรียมการอภิปรายของฝ่ายค้าน ขณะนี้ในส่วนพรรคเพื่อไทย มีผู้อภิปราย จำนวน 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 20 คน เท่ากับจะได้อภิปรายคนละ 5-6 นาที ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะอภิปรายบนเนื้อหาสาระที่ดี ไม่ตีรวนเพราะไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นลักษณะของการทักท้วงติติง และแสดงหลักฐาน ว่าการจัด งบประมาณครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศอย่างไร โปร่งใสตรวจสอบได้ และเป็นไปตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายไว้หรือไม่ เมื่อถามว่า จะเน้นการอภิปรายในกระทรวงใดบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผู้อภิปรายเป็นรายกระทรวงอยู่แล้ว เช่น งบกระทรวงกลาโหมจะมีคนชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสม ไม่ตอบโจทย์กับสภาวะของประเทศที่กำลังยากลำบาก รวมถึงงบกลางที่ตั้งงบประมาณในส่วนของเงินทดลองจ่ายฉุกเฉินไม่เหมาะสม ส่วนการลงมติว่าจะรับหรือไม่รับร่างพ.ร.บ.งบฯ คงต้องรอดูสถานการณ์จากการรับฟังการอภิปราย และการชี้แจงของรัฐมนตรี รวมถึงการชี้แจงของนายกฯก็จะเป็นตัวชี้วัดด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากร่างพ.ร.บ.งบฯผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการ แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาวาระที่ 2 ชั้นคณะกมธ.ฯ หากมีมาตราใดที่ตั้งงบไม่สอดคล้อง และไม่เหมาะสม กมธ.ฯก็สามารถลงมติไม่เห็นชอบเป็นรายมาตราได้ หรือไม่เห็นชอบร่างดังกล่าวในวาระที่ 3 ได้ เพราะการเห็นชอบที่สำคัญที่สุดคือวาระที่ 3