พิจิตรปีนี้ส่อเค้าภัยแล้งรุนแรงแม่น้ำยม ส่งสัญญาณวิกฤตให้เห็นแล้วว่าต้องเตรียมรับมือ ชาวบ้าน-พระภิกษุสงฆ์ รวมตัวแบกกระสอบทรายขวางกั้นลำน้ำยมหวังทำฝายชะลอน้ำเติมลมหายใจให้นาข้าวได้เกือบ 4 หมื่นไร่ วันที่ 15 ต.ค. 62 นางอรุณี จุลเจริญ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร , นายณัฐภูมิ อนันตภูมิ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานพิจิตร พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านที่เป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำและชาวนาจากตำบลกำแพงดิน ต.สามง่าม ต.รังนก กว่า 100 คน รวมตัวกันที่บริเวณฝายางสามง่ามบ้านจระเข้ผอม หมู่ 1 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีฝายยางของกรมชลประทานที่สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ใช้ประโยชน์เพื่อการกักเก็บน้ำในแม่น้ำยม โดยฝายยางดังกล่าวในสภาวะปกติจะทำหน้าที่พองขึ้นเพื่อขวางลำน้ำยมที่มีความยาวขวางแม่น้ำ ยาวประมาณ 75 เมตร เมื่อพองลมแล้วจะสูงประมาณ 4.50 เมตร สามารถกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ได้ใช้เพื่อการเกษตรในช่วงหน้าแล้งครอบคลุมพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำยมจากตำบลรังนก – ตำบลสามง่าม ไปจนถึงตำบลกำแพงดินประมาณ 18 กิโลเมตร แต่ด้วยสภาพการใช้งานฝายยางจึงเกิดชำรุดขึ้น สนง.ชลประทานจังหวัดพิจิตร ซึ่งได้รับงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท มาเพื่อว่าจ้างผู้รับเหมาในการซ่อมแซมจึงมีความจำเป็นจะต้องยุบฝายยางเพื่อให้น้ำแห้ง แต่ปรากฏว่าชาวนาจาก 3 ตำบลดังกล่าวมีความต้องการใช้น้ำเพื่อการทำนาปรัง ชาวนาและกลุ่มเกษตรกรจึงได้รวมตัวกันกรอกทรายใส่กระสอบแล้วใช้แรงกายช่วยกันแบกกระสอบทรายจำนวนเกือบ 2 พันถุงไปทำการขวางลำน้ำยมเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร โดยทรายและกระสอบทรายเป็นงบประมาณของกรมชลประทาน ส่วนชาวบ้านก็สละแรงกายและหุงข้าวหม้อแกงหม้อมากินกันเอง สำหรับพลังของชาวบ้านที่ช่วยกันนำกระสอบทรายไปขวางกั้นแม่น้ำยมที่มีฐานคอนกรีตเดิมสูงกว่าท้องน้ำประมาณ 1 เมตร จะถูกวางเรียงซ้อนด้วยกระสอบทรายสูงขึ้นมาอีก 1 เมตร รวมเป็น 2 เมตร ที่จะเป็นฝายชะลอน้ำชั่วคราวที่สามารถทดน้ำทำให้สถานีสูบน้ำ 13 สถานี สูบน้ำไปช่วยชาวนาลุ่มน้ำยมในพื้นที่เกือบ 4 หมื่นไร่ ให้มีน้ำทำการเกษตรได้ ซึ่งถือเป็นการสู้กับวิกฤตภัยแล้งที่ปีนี้มาเร็วและส่อเค้าว่าจะรุนแรงอีกด้วย