กรมบัญชีกลางจับมือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ จัดทำฐานข้อมูลร่วมกันเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรงทุกวันที่ 10 ของเดือนให้ผู้มีสิทธิของ อปท.ทั้ง 76 จังหวัดจำนวน 7,774 แห่งพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนม.ค.63
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท
ทั้งนี้กรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.)ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล โดยนำร่องจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิโดยตรงใน จ.สิงห์บุรี เมื่อเดือนส.ค.-ก.ย.62
โดยขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)กำลังดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูล เบี้ยยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและตรวจสอบความถูกต้องของฐานข้อมูลบุคคลของ อปท.จำนวน 7,774 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare)ของกรมบัญชีกลางให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมของระบบไว้รองรับการจ่ายเงินดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการของ อปท.ครบ76 จังหวัด จำนวน 7,774 แห่งในเดือนม.ค.63 โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิโดยตรง ซึ่งการจ่ายเงินดังกล่าวจะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้นๆ ทั้งนี้การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรงจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้มีสิทธิจะได้รับเงินรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น