นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมสมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตร ณ สหกรณ์การเกษตรกงหรา จำกัด อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง โดยมี นายนาวี หะยีดอเลาะ สหกรณ์จังหวัดพัทลุง นายบุญพบ อักษรเนียม ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรกงหรา จำกัด คณะกรรมการ และสมาชิกสหกรณ์ ให้การต้อนรับ
สหกรณ์การเกษตรกงหรา จำกัด ได้เข้าร่วมโครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดตันทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีคณะกรรมการ ประธานกลุ่มสมาชิก และสมาชิกเข้าร่วมอบรม จำนวน 100 คน โดยมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการดิน การตรวจวิเคราะห์ดิน และการผสมปุ๋ยใช้เอง จากสถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพัทลุง มาร่วมบูรณาการให้ความรู้ ทำให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยผสมที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของพืชที่เหมาะสมกับสภาพของดิน ในราคาที่เป็นธรรม ช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกอื่น ๆ ทำให้สมาชิกมีความต้องการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 10 ราย และได้มอบนโยบายโดยให้สหกรณ์ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ผสมปุ๋ยใช้เองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และได้ขอความร่วมมือเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ลด ละ เลิกการใช้สารเคมี ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์รวมกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยจากสารเคมี และขณะนี้มีโยบายจัดตั้งซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์เพื่อรองรับสินค้าคุณภาพของสหกรณ์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการขยายช่องทางการกระจายสินค้าสหกรณ์ถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้สหกรณ์น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินงานของสหกรณ์ เพื่อเสริมสร้างสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง โปร่งใส มีธรรมาภิบาลต่อไป
ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรกงหรา จำกัด มาสมาชิก จำนวน 2,274 ครัวเรือน กลุ่มสมาชิก 32 กลุ่ม มีทุนดำเนินงาน 168 ล้านบาท ได้ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจรับฝากเงิน มีมูลค่า 73,484,375.22 บาท 2.ธุรกิจสินเชื่อ มีมูลค่า 118,682,259.51 บาท 3.ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายแก่เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์และผู้คนทั่วไป มีมูลค่า 260,020 บาท ในอนาคตสหกรณ์วางแผนดำเนินธุรกิจด้านธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร เช่น ยางพารา มังคุด ลองกอง เงาะ เป็นต้น และจะสร้างอาคารเก็บรวบรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในการขายสินค้า และแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำต่อไป