“มนัญญา" กร้าว!! กก.วัตถุอันตราย ฝ่ายผู้ทรงวุฒิ จวกวิเศษจากไหนเป็นคนไทยหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ตีตั๋วนอกประเทศไทยไป ท้าเปิดหน้าอย่าเป็นไอ้โม่ง หากพลิกมติแบน 3 สารยื้อให้ใช้ต่อ ฟันธง ยังรับอะไรที่เปลี่ยนคนได้ เตือนพวกเสียผลประโยชน์ส่งคนตามถือป้ายประท้วง หยุดทำ ระบุ 17 ต.ค.นี้ หนังสือแบนสารส่งถึงมือนายกฯ ย้ำมีหลายฝ่ายฝากถามอยากรู้ท่าทีนายกฯด้วย วันที่ 14 ต.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียนที่ประเทศบูรไน ถึงกรณีเดินหน้าแบนสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโฟรเซต ให้มีผลวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่าในวันที่ 17 ต.ค.นี้ จะนำหนังสือมติ 9-0 ให้แบน 3 สารทันที มีผลวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ของคณะทำงาน 4 ฝ่าย พร้อมด้วยเอกสารรายละเอียดมาตรการยกเลิกใช้3สาร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งให้กับนายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา หลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับหนังสือเมื่อวันที่ 10 ต.ค. จะลงนามวันที่ 14 ต.ค.นี้ รับมติการแบนสาร และนำไปยื่นให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อลงนามทั้ง 3 กระทรวง โดยตนจะถือหนังสือไปให้ นายกรัฐมนตรี รวมถึงดิฉันจะสอบถามท่าทีของท่านนายกฯในเรื่องนี้ว่าจะมีความเห็นอย่างไรในเรื่องการแบน3สารเคมี เพราะมีหลายฝ่ายและสื่อมวลชนได้ฝากถามด้วย ซึ่งหนังสือแบน3สาร จะทันบรรจุเข้าวาระการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 22 ต.ค.นี้ “หนังสือแบน 3 สารไปส่งให้ รมว.เกษตรฯ แล้วและยังประสานนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ทำหนังสือมติ 9-0 แบน 3 สาร ถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ประชุมครั้งนี้ วันที่ 22 ต.ค. พร้อมกับกำชับในส่วนข้าราชการกระทรวงเกษตร เป็นตัวแทน 4 คนเข้าประชุม ต้องรับผิดชอบมติ 9-0 ของคณะทำงาน 4 ฝ่าย จึงต้องไปลงมติแบนในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ตามที่ลงมติไว้ รวมทั้งในส่วนกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจ ได้กำชับข้าราชการไปด้วย เรื่องนี้จะง่ายขึ้น ทั้งนี้ในส่วนกระทรวงเกษตร ไม่กังวล ในมติของเรา แบน3สาร ยกเป็นวัตถุอันตรายระดับ4ห้ามนำเข้า ห้ามผลิต ห้ามมีไว้ในครอบครอง เมื่อพี่เดินทางกลับจากประเทศบูรไน คืนวันที่ 16 ต.ค. จะตรวจดูหนังสือให้เรียบร้อย และนำกราบเรียนท่านนายกฯ ส่งหนังสือให้วันที่ 17 ต.ค. ตามที่ได้ทำตามบัญชา ของท่านนายกฯ และส่งให้ รมว.สาธารณสุข รมว.อุตสาหกรรม กำชับในส่วนราชการ"รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ในส่วนของเสียงผู้แทนจากกระทรวงเกษตรฯ ในแนวทางเดียวกัน แต่ในส่วนกรรมการผู้ทรงวุฒิ ก็คงไม่ได้วิเศษจากไหนเพราะมาจากพี่น้องชาวไทย ต้องฟังเสียงคนไทย เราขอให้เปิดเผยการประชุม และเชื่อว่ากรรมการในส่วนข้าราชการทุกคนฟังเจ้ากระทรวง สำหรับประเด็นสารทดแทน ที่จะถูกหยิบขึ้นมาว่ายังไม่มี ซึ่งทำให้ที่ผ่านมากรรมการไม่แบน ดิฉันจึงได้ประสาน กระทรวงอุตสาหกรรม แล้วว่าเรามีมติแบน3สาร ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตอบมาว่าทุกครั้งที่ต้องถามเรื่องสารทดแทน เพราะกระทรวงเกษตรฯมีหนังสือไปไม่ชัดเจนและไม่ครอบคลุมมาตรการวิธีทำเกษตรปลอดสาร ซึ่งในครั้งนี้ทุกประเด็นชัดเจนโดยมีมติ 9-0 แบน 3 สารรองรับ และมาตรการเกษตรอินทรีย์ วิธีใช้เครื่องจักรกลทดแทน น.ส.มนัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ตั้งคณะทำงานร่วมกันเข้าตรวจสอบสารเคมี 3 ชนิดแต่ละบริษัท เพื่อวางแผนอย่างรัดกุมไม่ให้เล็ดรอดเข้ามาใช้การเกษตร ขณะนี้ยังสารเคมีฆ่าหญ้าฆ่าแมลง อีกเป็นหลายร้อยชนิดในท้องตลาด ที่จะต้องดูแลมีมาตรการกำกับให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีการเปลี่ยนตัวกรรมการบางส่วนในปีกของข้าราชการและมีกรรมการผู้ทรงวุฒิ มีสัดส่วนมาก อาจมีมติไม่แบน ส่งผลให้ รัฐมนตรีค่ายภูมิใจ ลาออก น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ไม่กังวลและไม่ต้องลาออก เพราะกระทรวงเกษตรฯมีหนังสือกำชับ 4 ผู้แทนของกระทรวงเกษตร ให้รับผิดชอบการแบนสารตามมติ 9-0 ของคณะทำงาน4ฝ่าย และยืนยันพรรคภูมิใจไทย ว่าเห็นในทางเดียวกัน กำชับข้าราชการทุกคนแบน ไม่มีใครฝืนผู้บังคับบัญชา แต่ในด้านกรรมการผู้ทรงวุฒิ ต้องเปิดหน้าทั้งหมด ถามว่าจะเอา3สารไว้เพื่ออะไร ฝากไปถามด้วย ยังเชื่อว่าต้องฟังเสียงประชาชน และรมว.อุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำจะทำตามมติของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งที่ผ่านมาทุกครั้งกระทรวงเกษตรฯสั่งไปไม่ชัด ครั้งนี้ชัดเจนมาก ในตอนนี้มีหนังสือบัญชาจากนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งคณะทำงาน4ฝ่าย ฟังรอบด้าน จนมีมติ9-0 ไปวางตรงนั้นในที่ประชุม จะแย้งอย่างไร หรือเอาเหตุผลที่ไหนมาแย้งได้ “ถามว่าหนักใจไหม ต้องดูกรรมผู้ทรงวุฒิเป็นคนไทย สัญชาติไทยเชื้อชาติไทยไหม ถ้าท่านไม่ใช่คนไทย ไม่ได้กินใช้กับคนไทย ก็ตีตั๋วเครื่องบินออกนอกประเทศไปเลย ครั้งนี้พี่มั่นใจ 90% แบนได้ไม่มีผลิกโผ ถ้าผลิกไม่ทราบว่าอะไรจะมางัดได้ มีการเปลี่ยนแปลง ฟันธง ได้เลยว่ารับอะไรมาแน่ ที่คนไทยรู้ๆกัน ว่าอะไรที่รับมาแล้วทำให้เปลี่ยนคนได้ และ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร กระทั่งส่งคนตามแอนตี้พี่ ถือป้ายประท้วง ขอให้เลิกคิด หยุดทำ มันดูไม่ดี พี่ชาดา ยังย้ำว่าน่าจะให้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลหน่อย เพราะพี่ไปไหนมาไหนเร็ว มีแต่ลูกๆที่ติดตาม ซึ่งในเรื่องที่มีคนตามดูพี่ ไม่ได้คุยกับ ท่านอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค เพราะท่านก็เครียดๆกับเรื่องนี้ ต้องขอฝากขอบคุณ ผู้การตำรวจสันติบาล ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล ที่จ.อุทัยธานี อาจได้ข่าวเรื่องการประท้วง และมีคนตามแล้ว ท่านจึงส่งตำรวจไป เห็นว่ามีข่าวภายในออกมา อย่างไรตอนนี้ไม่มีการอารักขา ไม่มีตำรวจนำอะไรทั้งสิ้น ที่ผ่านมาเคยมี อยู่ดีๆไม่มี พี่ก็ไม่ทราบเช่นกัน “น.ส.มนัญญา กล่าว น.ส.มนัญญา กล่าวว่า วันที่ 22 ต.ค. มีประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ต้องไปนั่งเฝ้าหน้าห้องแน่นอน เพราะเรายังแมนๆรับผิดชอบเองทำเองทุกอย่าง ทางคณะกรรมการฯ จะไม่รับผิดชอบในส่วนประชาชนเลยหรือ ถ้ายังปิดหน้าเป็นไอ้โม่งก็จบ ซึ่งเรื่องแบนสารเคมีดำเนินการมา 2 ปี แล้วถ้าสต็อกยังมีสารอีกมาก ถือว่าลักลอบเข้ามา ดิฉันไปตรวจท่าเรือ เจอมะพร้าวงอก พอไล่กลับหันหัวเรือกลับประเทศ มะพร้าวไทยราคาขึ้นทันที ผู้บริโภคไม่สะเทือน เกษตรกรไทยหน้าชื่นตาบาน ไม่ต้องตัดต้นมะพร้าวทิ้ง ผู้สื่อข่าวถามกรณีแกนนำเกษตรกรหนุนการใช้ 3 สาร จะหอบรายชื่อเกษตรกร 5 แสนราย ที่ต้องการใช้สารไปฟ้องศาลปกครอง ให้ชะลอการแบนสาร น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ขอถามถึงรายชื่อเกษตรกร 4-5 แสนคน ได้มาอย่างไร การไปเอารายชื่อมา ไม่รอดสายตาพี่น้องประชาชน ที่ดูอยู่ รวมทั้งดิฉันไปซุ่มดูมาด้วย พบมีคนไปถามชาวบ้าน จะใช้สารไหม ให้ลงชื่อจะให้ยาฆ่าแมลงมาใช้ฟรี มีการเดินไปถามชาวบ้าน และชาวบ้านยังไม่ทราบว่าเอารายชื่อมาไปทำอะไร ซึ่งดิฉันไปเจอกันได้บนศาล ทุกเมื่อพร้อมขึ้นศาลเพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย เป็นสิ่งที่ดีมาก ทั้งนี้กฏกระทรวง 5 ฉบับ เรื่องการจำกัดการใช้3สาร จะหมดไปเพราะไม่ใช่ 3 สารในวันที่ 1 ธ.ค.จะไม่มีในประเทศไทย กฏกระทรวง5ฉบับ เอาออกไปหมด ไม่มีคำว่าจำกัดการใช้ ซึ่งจากการคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม จะทำตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ตามที่มีมติแบน 3 สาร 9-0 ได้พูดคุยกับรอบนอกแล้ว