เห็นได้ชัดว่าในปัจจุบัน เราได้เข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคเล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษ์โลกและการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมในใช้ชีวิตประจำวันของตนเองกันมากขึ้น อีกทั้งพวกเขายังต้องการรับรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมารีไซเคิลจะถูกนำไปแปรรูปเป็นสิ่งใด การเข้าใจในต้นกำเนิดและผลกระทบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีต่อโลกนับเป็นปัจจัยสำคัญที่เรากำลังไตร่ตรองกันอย่างถี่ถ้วนยิ่งขึ้นในทุกวันนี้
เนสเพรสโซ มีความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมมือกับ แบรนด์จักรยานจากสวิตเซอร์แลนด์ Vélosophy (เวโลโซฟี) รังสรรค์จักรยานที่ทำจากอะลูมิเนียมของแคปซูลกาแฟใช้แล้วมารีไซเคิลใหม่ในชื่อ RE:CYCLE (รี:ไซเคิล) เพื่อให้ทุกคนได้เห็นประโยชน์ของอะลูมิเนียมที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และเป็นการเชิญชวนให้แฟนๆของเนสเพรสโซนำแคปซูลกาแฟใช้แล้วกลับมาคืนเพื่อให้เนสเพรสโซนำไปรีไซเคิลในกระบวนการต่อไป โดยรุ่นนี้ใช้โมเดลจักรยานทรงคลาสสิกของแบรนด์เวโลโซฟีที่มาในสีม่วงสดใส เพื่อให้สอดคล้องกับสีแคปซูลกาแฟ Arpeggio (อาร์เปกจิโอ) อันโด่งดังของแบรนด์ ตกแต่งด้วยกระดิ่งทรงคล้ายแคปซูล และตระกร้าด้านหน้าสามารถวางแก้วกาแฟได้ ทำให้แฟนเนสเพรสโซสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรดได้นอกบ้าน โดยเนสเพรสโซได้นำจักรยานรุ่นนี้มาจัดแสดงให้ได้ชมกันที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น เอ็ม
Jean-Marc Duvoisin (ฌอง-มาร์ค ดูวัวแซง) ซีอีโอของเนสเพรสโซ กล่าวว่า “เราพยายามทำให้คอกาแฟมองเห็นถึงโอกาสในการนำอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟเนสเพรสโซกลับมาใช้ใหม่ผ่านทางการร่วมมือกับแบรนด์เวโลโซฟี โดยทางแบรนด์ได้ผสมผสานสไตล์สุดเก๋เข้ากับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับผู้ใช้อย่างแท้จริง และทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรีไซเคิลด้วยการนำแคปซูลใช้แล้วมาสร้างสรรค์เป็นจักรยานที่สวยงาม จากการได้ร่วมงานกันครั้งนี้เวโลโซฟีได้มอบแรงบันดาลใจให้เรามากมาย และผมก็หวังว่าจักรยาน RE:CYCLE จะมอบแรงบันดาลใจให้ทุกคนหันกลับมารีไซเคิลกันนะครับ”
งานนี้คนดังคอกาแฟ พอล สิริสันต์ ยังได้ร่วมแชร์ไอเดียการรีไซเคิลในแบบฉบับของตนเอง “ผมเป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ถ้ามีโอกาสตรงไหนทำได้เราก็จะทำ ถ้าไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ก็จะไม่เปิด หรือบางทีเลือกนั่งรถไฟฟ้าแทนการขับรถ และลดการใช้พลาสติก ในบ้านเราเริ่มมีการรณรงค์เรื่องรีไซเคิลโลกกันมากขึ้น แต่ปัญหาคือบางครั้งเราไม่รู้ว่าขยะที่เราแยกไว้ได้ถูกนำไปจัดการและรีไซเคิลเป็นอะไร ซึ่งจักรยานของเนสเพรสโซคันนี้เราเห็นกระบวนการที่มันชัดเจน เราได้รู้ว่าแคปซูลที่เรานำส่งคืนมันถูกนำไปแปรรูปต่อเป็นทั้งจักรยานและปากกา ผมคิดว่าถ้าเราอยากจะทำให้ช่วยโลกดีขึ้น ต้องเริ่มจากทุกคน และถ้าจะให้ดีต้องเริ่มจากบริษัทใหญ่ๆ ด้วย อยากให้ทุกคนร่วมมือกันครับ”
ทางด้าน พลอย จริยะเวช กล่าวเสริมว่า “ปกติแล้วจะเป็นคนที่ชอบรีไซเคิลในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว อย่างตอนนี้หันมาใช้ wax wrap (แวกซ์ แร็ป) ปิดจานอาหารแทนการใช้ซิปล็อก และจะพกถุงผ้าติดตัวเสมอ เมื่อไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็จะเอาออกมาใช้ แน่นอนว่าในปัจจุบันเรื่องการรักษ์โลกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเป็นการช่วยสังคมและชุมชนที่เราอยู่ เมื่อก่อนนี้คิดว่าเราเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มตระหนักมากขึ้นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีผลกระทบของมัน เราเห็นตัวอย่างเรื่องสัตว์น้ำตายเพราะกินพลาสติก เราทุกคนจึงควรมาช่วยกันพัฒนาโลกไปในทางที่ดีขึ้น ไม่อยากให้คิดว่าเป็นเทรนด์ แต่อยากให้เรียกว่าเป็นการตระหนักรู้ว่าอยากให้โลกดีขึ้น สำหรับจักรยานของเนสเพรสโซที่ทำมาจากแคปซูลใช้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะเราได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่มันเกิดมาจากการรีไซเคิลจริงๆ”
ปิดท้ายด้วย เดือน – พิยะดา นันทะ กล่าวว่า “หลักๆ ที่ทำบ่อยเลยน่าจะเป็นการเอาแคปซูลเนสเพรสโซกลับมาให้ที่ร้านเพื่อที่ว่าทางแบรนด์จะได้นำไปรีไซเคิลต่อ นอกจากนี้ก็มีการลดใช้แก้วพลาสติก จะเลือกใช้แก้วที่สามารถล้างได้เสมอ หรือเวลาไปซื้อของก็จะพกถุงผ้าไปด้วยเสมอ เดือนคิดว่าเราเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกได้ ในหนึ่งวันเราใช้ทรัพยากรกันเยอะมาก เราใช้มันอย่างไม่ได้ยั้งคิด อยากให้คิดถึงคนรุ่นต่อไปกันเยอะขึ้น ถ้าเราอยากให้ลูกหลานเราได้อยู่บนโลกที่สวยงามเหมือนที่เราได้อยู่ทุกวันนี้ เราก็ต้องช่วยกันค่ะ”
และนอกเหนือจากจักรยานแล้ว เนสเพรสโซยังได้ร่วมมือกับแบรนด์เครื่องเขียนชื่อดังสัญชาติสวิส การองดาช (Caran d’Ache) สร้างสรรค์ปากกาลูกลื่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ทำจากอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟรีไซเคิลด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีนี้ปากกาลูกลื่นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น Caran d’Ache Nespresso (การองดาช เนสเพรสโซ) มาในสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีเดียวกับแคปซูลกาแฟ Master Origins India (มาสเตอร์ ออริจินส์ อินเดีย) หนึ่งในคอลเลกชั่นขายดีและได้รับความนิยมของเนสเพรสโซ
สำหรับลูกค้าเนสเพรสโซที่อยู่ในประเทศไทย สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้ เพียงแค่นำแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้วจัดเก็บใส่ไว้ในถุงรีไซเคิลและนำมายังจุดรับแคปซูลใช้แล้วได้ที่เนสเพรสโซ บูติก ทุกสาขา รวมไปถึงจุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และโคราช) โดยคุณสามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลที่ใช้แล้วที่ใกล้บ้านได้ที่ https://www.nespresso.com/th/th/how-to-recycle-coffee-capsules
Jean-Marc Duvoisin (ฌอง-มาร์ค ดูวัวแซง) ซีอีโอของเนสเพรสโซ กล่าวว่า “เราพยายามทำให้คอกาแฟมองเห็นถึงโอกาสในการนำอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟเนสเพรสโซกลับมาใช้ใหม่ผ่านทางการร่วมมือกับแบรนด์เวโลโซฟี โดยทางแบรนด์ได้ผสมผสานสไตล์สุดเก๋เข้ากับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับผู้ใช้อย่างแท้จริง และทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรีไซเคิลด้วยการนำแคปซูลใช้แล้วมาสร้างสรรค์เป็นจักรยานที่สวยงาม จากการได้ร่วมงานกันครั้งนี้เวโลโซฟีได้มอบแรงบันดาลใจให้เรามากมาย และผมก็หวังว่าจักรยาน RE:CYCLE จะมอบแรงบันดาลใจให้ทุกคนหันกลับมารีไซเคิลกันนะครับ”
งานนี้คนดังคอกาแฟ พอล สิริสันต์ ยังได้ร่วมแชร์ไอเดียการรีไซเคิลในแบบฉบับของตนเอง “ผมเป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ถ้ามีโอกาสตรงไหนทำได้เราก็จะทำ ถ้าไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ก็จะไม่เปิด หรือบางทีเลือกนั่งรถไฟฟ้าแทนการขับรถ และลดการใช้พลาสติก ในบ้านเราเริ่มมีการรณรงค์เรื่องรีไซเคิลโลกกันมากขึ้น แต่ปัญหาคือบางครั้งเราไม่รู้ว่าขยะที่เราแยกไว้ได้ถูกนำไปจัดการและรีไซเคิลเป็นอะไร ซึ่งจักรยานของเนสเพรสโซคันนี้เราเห็นกระบวนการที่มันชัดเจน เราได้รู้ว่าแคปซูลที่เรานำส่งคืนมันถูกนำไปแปรรูปต่อเป็นทั้งจักรยานและปากกา ผมคิดว่าถ้าเราอยากจะทำให้ช่วยโลกดีขึ้น ต้องเริ่มจากทุกคน และถ้าจะให้ดีต้องเริ่มจากบริษัทใหญ่ๆ ด้วย อยากให้ทุกคนร่วมมือกันครับ”
ทางด้าน พลอย จริยะเวช กล่าวเสริมว่า “ปกติแล้วจะเป็นคนที่ชอบรีไซเคิลในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว อย่างตอนนี้หันมาใช้ wax wrap (แวกซ์ แร็ป) ปิดจานอาหารแทนการใช้ซิปล็อก และจะพกถุงผ้าติดตัวเสมอ เมื่อไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็จะเอาออกมาใช้ แน่นอนว่าในปัจจุบันเรื่องการรักษ์โลกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเป็นการช่วยสังคมและชุมชนที่เราอยู่ เมื่อก่อนนี้คิดว่าเราเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มตระหนักมากขึ้นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีผลกระทบของมัน เราเห็นตัวอย่างเรื่องสัตว์น้ำตายเพราะกินพลาสติก เราทุกคนจึงควรมาช่วยกันพัฒนาโลกไปในทางที่ดีขึ้น ไม่อยากให้คิดว่าเป็นเทรนด์ แต่อยากให้เรียกว่าเป็นการตระหนักรู้ว่าอยากให้โลกดีขึ้น สำหรับจักรยานของเนสเพรสโซที่ทำมาจากแคปซูลใช้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะเราได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่มันเกิดมาจากการรีไซเคิลจริงๆ”
ปิดท้ายด้วย เดือน – พิยะดา นันทะ กล่าวว่า “หลักๆ ที่ทำบ่อยเลยน่าจะเป็นการเอาแคปซูลเนสเพรสโซกลับมาให้ที่ร้านเพื่อที่ว่าทางแบรนด์จะได้นำไปรีไซเคิลต่อ นอกจากนี้ก็มีการลดใช้แก้วพลาสติก จะเลือกใช้แก้วที่สามารถล้างได้เสมอ หรือเวลาไปซื้อของก็จะพกถุงผ้าไปด้วยเสมอ เดือนคิดว่าเราเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกได้ ในหนึ่งวันเราใช้ทรัพยากรกันเยอะมาก เราใช้มันอย่างไม่ได้ยั้งคิด อยากให้คิดถึงคนรุ่นต่อไปกันเยอะขึ้น ถ้าเราอยากให้ลูกหลานเราได้อยู่บนโลกที่สวยงามเหมือนที่เราได้อยู่ทุกวันนี้ เราก็ต้องช่วยกันค่ะ”
และนอกเหนือจากจักรยานแล้ว เนสเพรสโซยังได้ร่วมมือกับแบรนด์เครื่องเขียนชื่อดังสัญชาติสวิส การองดาช (Caran d’Ache) สร้างสรรค์ปากกาลูกลื่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ทำจากอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟรีไซเคิลด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีนี้ปากกาลูกลื่นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น Caran d’Ache Nespresso (การองดาช เนสเพรสโซ) มาในสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีเดียวกับแคปซูลกาแฟ Master Origins India (มาสเตอร์ ออริจินส์ อินเดีย) หนึ่งในคอลเลกชั่นขายดีและได้รับความนิยมของเนสเพรสโซ
สำหรับลูกค้าเนสเพรสโซที่อยู่ในประเทศไทย สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้ เพียงแค่นำแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้วจัดเก็บใส่ไว้ในถุงรีไซเคิลและนำมายังจุดรับแคปซูลใช้แล้วได้ที่เนสเพรสโซ บูติก ทุกสาขา รวมไปถึงจุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และโคราช) โดยคุณสามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลที่ใช้แล้วที่ใกล้บ้านได้ที่ https://www.nespresso.com/th/th/how-to-recycle-coffee-capsules