พะเยา - ชาวชุมชนวัดศรีจอมเรือง จ.พะเยา พร้อมใจกวน “ ข้าวจะคู้ “ หรือข้าวมธุปายาส เชื่อว่าคนที่ได้ทำและทานข้าวจะคู้ จะเป็นสิริมงคลกับชีวิต มีโชคลาภ แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง
ช่วงค่ำของวันนี้ ( 12 ตุลาคม 2562 ) ที่วัดศรีจอมเรือง ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวพม่ามาตั้งแต่ดั้งเดิม ชาวบ้านในชุมชนต่างก็พร้อมใจกันนำมะพร้าว ถั่ว งา ข้าวสารน้ำตาลทราย และขนมนมเนยมาถวายพระ เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการกวนข้าวจะคู้ ( ภาษาพม่า ) หรือข้าวส้มต่อ ( ภาษาถิ่นเหนือ ) เพื่อนำไปถวายพระในวันออกพรรษาตามความเชื่อคติชนล้านนา
โดยชาวบ้านในชุมชนจะนำวัตถุดิบต่างๆมาถวายพระในช่วงเย็น จากนั้นก็จะช่วยกันขูดมะพร้าว คั่วถั่วลิสง งา และนึ่งข้าวเหนียว เมื่อทุกอย่างพร้อมซึ่งจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 22.00น. จึงนำกะทิมาเคี่ยวพร้อมนม เนย น้ำผึ้ง น้ำตาล ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนที่จะเทข้าวเหนียวที่เตรียมไว้แล้วคนจนมีความเหนียว สีออกน้ำตาลทั่วกัน แล้วโรยด้วยงาขาว งาคั่วและเมล็ดถั่วคั่ว ปล่อยให้เย็นและนำตักใส่ถาดจำนวน 9 ถาด นำไปตั้งไว้หน้าพระประธานในวิหาร พร้อมกับขนม และผลไม้นำมาถวายตั้งแต่ตอนเย็น
จากนั้นเวลาประมาณ 05.00 น.ของอีกวัน พระสงฆ์และศรัทธาชาวบ้านก็จะกล่าวคำถวายข้าวจะคู้ ขนมและผลไม้เหล่านั้น จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00น.พระสงฆ์จะจำน้ำข้าวจะคู้ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่มาช่วยงานและชาวบ้านในชุมชนอย่างทั่วถึง เพราะเชื่อว่าคนที่ได้ทำและทานข้าวจะคู้ จะเป็นสิริมงคลกับชีวิต มีโชคลาภ แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ( นพพร / พะเยา )
ช่วงค่ำของวันนี้ ( 12 ตุลาคม 2562 ) ที่วัดศรีจอมเรือง ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวพม่ามาตั้งแต่ดั้งเดิม ชาวบ้านในชุมชนต่างก็พร้อมใจกันนำมะพร้าว ถั่ว งา ข้าวสารน้ำตาลทราย และขนมนมเนยมาถวายพระ เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการกวนข้าวจะคู้ ( ภาษาพม่า ) หรือข้าวส้มต่อ ( ภาษาถิ่นเหนือ ) เพื่อนำไปถวายพระในวันออกพรรษาตามความเชื่อคติชนล้านนา
โดยชาวบ้านในชุมชนจะนำวัตถุดิบต่างๆมาถวายพระในช่วงเย็น จากนั้นก็จะช่วยกันขูดมะพร้าว คั่วถั่วลิสง งา และนึ่งข้าวเหนียว เมื่อทุกอย่างพร้อมซึ่งจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 22.00น. จึงนำกะทิมาเคี่ยวพร้อมนม เนย น้ำผึ้ง น้ำตาล ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนที่จะเทข้าวเหนียวที่เตรียมไว้แล้วคนจนมีความเหนียว สีออกน้ำตาลทั่วกัน แล้วโรยด้วยงาขาว งาคั่วและเมล็ดถั่วคั่ว ปล่อยให้เย็นและนำตักใส่ถาดจำนวน 9 ถาด นำไปตั้งไว้หน้าพระประธานในวิหาร พร้อมกับขนม และผลไม้นำมาถวายตั้งแต่ตอนเย็น
จากนั้นเวลาประมาณ 05.00 น.ของอีกวัน พระสงฆ์และศรัทธาชาวบ้านก็จะกล่าวคำถวายข้าวจะคู้ ขนมและผลไม้เหล่านั้น จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00น.พระสงฆ์จะจำน้ำข้าวจะคู้ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่มาช่วยงานและชาวบ้านในชุมชนอย่างทั่วถึง เพราะเชื่อว่าคนที่ได้ทำและทานข้าวจะคู้ จะเป็นสิริมงคลกับชีวิต มีโชคลาภ แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ( นพพร / พะเยา )