เรื่อง : ชนิดา สระแก้ว
ภาพ : พสุพล ชัยมงคลทรัพย์
“รื่นรมย์คนการเมือง” สัปดาห์นี้จะพาไปรู้จักกับ “พล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญ” สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเคยเป็นผู้บังคับฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 211 ผู้บังคับการกองบิน 4 ผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อดีตผู้ช่วยทูตทหารอากาศไทยประจำกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน เจ้ากรมกำลังพลทหาร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และสมาชิกวุฒิสภา
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติบัตรบุคคลดีเด่น จากกองทัพอากาศ มีฉายา “วีระบุรุษช่องโอบก” ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ นอกจากนั้นยังได้รับพระราชทานรางวัลเสมาธรรมจักร และยังเป็นที่รักของน้อง ๆในกองทัพอากาศ ขนานนามว่า “ครูหมึก”บ้างก็เรียก “เสธ.หมึก” เรามารู้จักไปพร้อมๆกันในอีกแง่มุมหนึ่ง
@ แรงบันดาลใจสู่การเป็นทหาร
ครูหมึก เล่าถึงความมุ่งมั่นที่ได้มาเป็นทหารว่า จากการที่เป็นลูกคนเดียว คุณพ่อเป็นข้าราชการกรมทาง จะไปไหนมาไหนกับคุณพ่อตลอด จึงได้มีโอกาสพบเจอกับเพื่อนของคุณพ่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหาร ทำให้ได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อนของคุณพ่อ ก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งในตอนนั้นมีความมุ่งมั่นมาก แต่คุณแม่อยากให้ไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดม เพื่อเป็นเหมือนคุณพ่อ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเท่านั้น จึงได้เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 ตามที่ปรารถนา
จากนั้นเข้าไปเป็นนายเรืออากาศรุ่นที่ 15 เมื่อปี 2515 ไปเรียนบิน 1 ปี โดยเลือกบินเครื่องบินไอพ่น เมื่อเรียนจบเป็นศิษย์การบินไปประจำการที่กองบิน 4 ฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 43 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จนถึงปี 2522 จากนั้นก็ย้ายไปเป็นครูการบินที่โรงเรียนการบินเพื่อสอนนักบินใหม่ที่อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อยู่ 3 ปี แล้วย้ายไปประจำการ ณ กองบินที่ 21 จ.อุบลราชธานี ฝูงบินขับไล่ยุทธวิธี 211
@ เปิดประสบการณ์ 300ชั่วโมงบิน
ครูหมึก เล่าถึงประสบการณ์การบินเครื่องบินรบไอพ่นเกือบ 300 ชั่วโมงว่า ใหม่ ๆก็ตื่นเต้น แต่ตอนหลังก็เคยชิน ครั้งแรกเป็นการบิน โจมตีผู้ก่อการร้ายบริเวณเทือกเขาภูพาน จ.นครพนม และตามบริเวณชายแดนอื่นๆรอบอาณาจักร เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อ.ดอนตาล จ.ยโสธร อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว การโจมตีแต่ละครั้งมักเป็นกำลังข้าศึกที่แข็งแรง และไม่สามารถที่จะใช้อาวุธประจำหน่วยของภาคพื้นเข้าทำลายได้ ซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งก็จะพิจารณาว่าจะใช้อาวุธชนิดใดถึงจะเหมาะสม
“ชั่วโมงรบด้วยเครื่องบินไอพ่นของผมถ้าเทียบในรุ่นเดียวกันผมมีชั่วโมงรบมากที่สุด การโจมตีแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ผมมีชั่วโมงบินเครื่องบินไอพ่นเกือบ 300 ชั่วโมงหรือประมาณ 30 ครั้ง”
ครูหมึก เล่าถึงสมรรถนะของเครื่องบินโจมตีแบบที่ 6 หรือ A 37 ว่า เป็นเครื่องบินไอพ่น 2 เครื่องยนต์ สามารถบรรทุกอาวุธได้หลายชนิด อาวุธหลักคือระเบิดขนาด 500 ปอนด์จำนวน 4 ลูก ปืนกลอากาศ 1,500 นัด และจรวด 28 นัด อาวุธแต่ละชนิดมีอำนาจในการทำลายสูง
ครูหมึก เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญของชีวิตกับการรับคำสั่งเข้าโจมตีที่บริเวณช่องโอบก อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่า เมื่อปี 2527-2528 ประเทศกัมพูชาเกิดความเห็นต่างเรื่องการปกครองกันภายใน เกิดกองกำลังปะทะกันเอง และเวียดนามเฮงสัมรินเข้ามาโจมตีเขมร 3 ฝ่ายหรือเขมรประชาธิปไตย ทำให้ราษฎรเขมรเดือดร้อนอพยพเข้ามาประเทศไทยบริเวณเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งมีช่องเขาหลายแห่งสามารถเดินเข้ามาได้ เช่น ช่องบก ช่องพลัย ช่องจอม ช่องโอบก ชาวบ้านก็จะอพยพหนีเข้ามา โดยมีกองกำลังข้าศึกตามมาด้วย ซึ่งกองกำลังของเราที่รักษาภาคพื้นอยู่บริเวณดังกล่าวเขาไม่สามารถใช้อาวุธประจำหน่วยสกัดกั้นได้ ต้องขอกำลังทางอากาศเข้าไปโจมตี
“ ตอนนั้นผมเป็นรองผู้บังคับฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 211 อุบลราชธานี วันนั้นเป็นเช้าวันจันทร์ที่ 8 ม.ค.2528 ได้รับคำสั่งให้เป็นหัวหน้าหมู่บินนำเครื่องบิน A 37 จำนวน 4 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องติดระเบิดขนาด 500 ปอนด์จำนวน 4 ลูก ปืนกลอากาศ 1,500 นัด และจรวด 28 นัด เป้าหมายบริเวณช่อองโอบก อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ใช้เวลาบิน 30 นาที ซึ่งเป็นฐานที่มั่นค่อนข้างแข็งแรงของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเป้าหมายถูกยืนยันโดยกองกำลังภาคพื้นฝั่งเรา ผมสั่งปรับรูปขบวนทำการโจมตีทันที ผมเป็นหมายเลข 1 ลงทำการโจมตี โดยลงจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันออกเฉียงใต้ เพราะระหว่างสองข้างเป็นกองกำลังของเราอยู่ ในขณะดำลงโจมตีเห็นแสงไปจากปากกระบอกปืนจากฝ่ายตรงข้ามที่ยิงสวนมาเป็นระยะๆ แต่เพราะความเคยชินจากการต่อต้านจากข้าฝึก จึงรู้สึกปกติ”
@ วินาทีเฉียดตาย !
ครูหมึก เล่าถึงเสี้ยววินาทีความเป็นความตายที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ว่า ครั้นถึงจุดปล่อยระเบิดก็ทำการทิ้งระเบิด 4 ลูกลง หลังจากนั้นจะดึงหัวเครื่องบินเชิดขึ้น เพื่อทำการเลี้ยวซ้ายไต่ระดับหาระยะสูง เพื่อให้พ้นจากรัศมีการยิงของข้าศึก แต่ขณะนั้นเครื่องผมถูกยิงด้วยจรวดนำวิถีแบบ SAM 7 ที่ยิงมาจากอีกยอดเขา ผมเห็นแต่ไม่สามารถหลบหลีกได้ ซึ่งตอนนั้นเครื่องบินหมายเลข 4 แจ้งว่าอาวุธเข้าไปในเครื่องแล้ว เพราะขณะเครื่องไต่ระดับขึ้นนั้นความเร็วในการหลบหลีกไม่ได้เพียงพอ เพราะจรวดชนิดนี้นำวิถีด้วยความร้อนมันจะวิ่งหาวัตถุที่มีความร้อน ซึ่งเป็นท่อท้ายของเครื่องบินไอพ่น
ขณะที่เครื่องถูกยิงมีความรู้สึกว่าเครื่องบินขาดกลาง และหัวเครื่องกำลังทิ่มลงด้วยอาการรุนแรงและหน้ากากออกซิเจนหลุดออกขาหน้ากากเกี่ยวแก้ม ทำให้เสียวและมีสติ มีความรู้สึกว่าเหมือนหลับกลางวัน มีคนเดินผ่านไปผ่านมา แต่ลืมตาไม่ขึ้น รู้อย่างเดียวว่าคล้ายมีคนเตือนว่า “จะตายไม่ได้ ๆ” จึงใช้มือซื้อเอื้อมลงดึงพนักเก้าอี้ให้ตัวติดเบาะ และใช้มือขวากดไกระบบดีดที่นั่งอัตโนมัติเพื่อให้ทำงาน ความรู้สึกของเราเต็มตัวเมื่อร่มกลางเต็มที่ ส่วนนักบินผู้ช่วยเขาก็ออกมาได้เช่นกัน แต่ทราบภายหลังว่าร่มกางไม่เต็มที่ ทำให้เขาเสียชีวิต
@ บารมี “ในหลวง ร.9” คุ้มครอง
ครูหมึก เล่าถึงตรงนี้ถึงกับน้ำตาคลอ ด้วยความตื้นตันใจถึงเหตุการณ์สู้รบครั้งนั้น และทำให้มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ไม่เคยลืมเลย ว่า ตอนนั้นในใจบอกว่ามีสิ่งหนึ่งที่เตือนเขาตลอดว่าจะตายไม่ได้ๆ เขาเล่าว่าก่อนหน้านั้นวันเกิดที่16 พ.ย.2527 ภรรยาเขารู้ว่าไม่ชอบแขวนพระ เพราะคิดว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว จึงเลี่ยมเหรียญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้เป็นของขวัญวันเกิด เป็นรุ่นที่แจกข้าราชการเมื่อปี 2517-2518 คงเป็นบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ 9 จึงทำให้ผมรอดชีวิตในครั้งนั้นมาได้ ตั้งแต่นั้นมาก็แขวนติดตัวตลอดมา
“ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อนะครับพอร่มกาง ผมก็มีสติเต็มที่ ยังได้ยินเสียงระเบิด เพราะเครื่องบินอีก 3 ลำก็ยังทำการโจมตีเป้าหมายอยู่ และมองไปด้านล่างเห็นต้นไม้ที่ถูกไปเผาแห้ง เป็นตอแหลมเต็มไปหมด เชื่อหรือไม่ว่าตอนลงมาถึงผมไม่โดนตอไม้อะไรเลย เหมือนมีคนเอาเบาะมารับไว้
คงเป็นบารมีเหรียญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ รัชกาลที่ 9 ที่แขวนอยู่ก็เป็นไปได้ จากนั้นตำรวจตระเวรชายแดนของเราก็เข้ามาล้อมไว้ เพื่อให้อยู่กับที่ เพราะบริเวณนั้นเป็นดงระเบิด และไม่รู้ว่าอยู่จุดไหนบ้าง จนเฮลิคอปเตอร์กองทัพอากาศมาช่วยเหลือ”
@ รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ
หลังจากนั้นพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ขณะเป็นผบ.ทบ.และคณะก็ไปเยี่ยมและให้กับกำลังใจทหาร ตำรวจ พลเรือน รวมทั้งครูหมึกด้วย รวมทั้งเจ้ากรมยุทธการทหารบกคือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ได้ทักทายและพูดว่า
“ ไอ้น้องแขวนพระอะไร พร้อมกับคำมือล้วงมาที่คอ เพื่อขอดู ครั้นเห็นว่าเป็นในหลวงรัชกาลที่ 9ก็เอ่ยปากว่าพระองค์นี้ดีมากแขวนไว้ตลอดไปเลยนะ และจากวีรกรรมครั้งนั้น รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ด้านการรบที่เคยผ่านมาหลายสมรภูมิสะสมมาก่อน ทำให้ผมได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ”
ครูหมึก เล่าว่า จากนั้น 1 สัปดาห์กลายเป็นคนดังไปเลย ทั้งสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศมารุมสัมภาษณ์ รวมทั้งหน่วยทหารของสหรัฐฯมาสอบถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ มาขอสัมภาษณ์ทุกวัน ยอมรับว่าตอนนั้นยังตื่นเต้นอยู่ แต่หลังจากนั้นอีกอาทิตย์หนึ่งเริ่มรู้สึกว่ามีอาการหลอน เริ่มกลัวชีวิตการบิน เวลานอนก็ยังฝันว่าเสียงดังปึงปังตลอด จึงกัดฟันทำการบินเดี่ยว เพื่อปรับความรู้สึก และปรับอารมณ์ บินอยู่หลายเที่ยวกว่าจะฟื้นฟูความรู้สึกให้เป็นปกติ หลังจากปกติได้ทำการบินเหมือนเดิมอีก ..
